เลื่อนพร้อมสั่งห้ามจดบันทึกในห้องพิจารณาคดี! นัดไต่สวนละเมิดอำนาจศาล “เบนจา-ณัฐชนน” เหตุชุมนุมทวงคืนสิทธิประกันตัว 30 เม.ย. 64

วันนี้ (16 มิ.ย. 64) ที่ศาลอาญา รัชดา ศาลนัดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล ของเบนจา อะปัญ และณัฐชนน ไพโรจน์ นักกิจกรรมและนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากการเรียกร้องสิทธิการประกันตัว หน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 64 ในระหว่างที่นางสุรียรัตน์ ชิวารักษ์ กำลังยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ซึ่งกำลังถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีมาตรา 112 และอดอาหารทวงคืนสิทธิประกันตัวมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน

คดีนี้มี ชวัลนาถ ทองสม ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา เป็นผู้กล่าวหา คำกล่าวหาบรรยายว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 64 “กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ได้ประกาศเชิญชวนให้มวลชนไปร่วมให้กำลังใจ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ ซึ่งได้มายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ลูกชาย ที่ศาลอาญารัชดา ในเวลา 14.00 น. ศาลอาญาจึงจัดมาตรการรักษาความปลอดภัย ปิดประตูทางเข้า 4 และประตูทางออก 9

เมื่อถึงเวลาดังกล่าว มีมวลชนทยอยเดินทางมาจำนวนมากที่บริเวณรั้วศาลและหน้าศาลอาญา บริเวณจอดรถหน้าธนาคารกรุงไทย มีการใช้เครื่องขยายเสียง พร้อมทั้งตะโกนข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา” และมีการชูป้ายกระดาษต่อว่าศาลยุติธรรมและแสดงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายภายในบริเวณศาล

ณัฐชนน ไพโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้มาที่บริเวณประตูทางเข้าศาลอาญา เวลา 17.16 น. และนำป้ายผ้า “ปล่อยเพื่อนเรา” มาผูกไว้ที่ประตูทางเข้าศาลอาญา (ประตู 4) และได้ใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง โดยมีถ้อยคำบางส่วนว่า

“…เพื่อนเราลําบากอยู่ในคุก…เพื่อนเราบางคนไม่ได้กินอะไร…ดังนั้น เราอยากให้คุณออกมา ฟังเสียงของประชาชนแล้วรับไปพิจารณา ชนาธิปออกไป…ชนาธิปออกไป…ชนาธิปออกไป…ชนาธิป”

“…สู้มั้ย…สู้มั้ย…ปล่อยเพื่อนเรา…ปล่อยเพื่อนเรา…ปล่อยเพื่อนเรา…หลายครั้ง และผู้ร่วมชุมนุมได้ชูป้ายกระดาษระบุข้อความ “เขายังไม่ผิดเลยยังเขาทําไม” “เหยดแม่มศาลเตี้ย ๆ ” “เมฆพ่อมึงเป็นอะไรมาก ป่าว” และข้อความอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก

และยังตะโกนเรียกชื่อผู้พิพากษามีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง โดยตะโกนนํา “ชนาธิป” และ ผู้เข้าร่วมชุมนุมกล่าวต่อ “ออกไป” ทําซ้ำๆ หลายครั้ง และพูด “ถ้ายังไม่ออกมาหรือออกมาแล้วขอให้รับฟัง เสียงของประชาชนไม่ใช่ฟ้องประชาชนเพิ่มเข้าใจมั้ย ชนาธิป และตะโกน ชนาธิป…ออกมา ชนาธิปออกมา”

ส่วนเบนจา อะปัญ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ปรากฎตัวหน้าประตู 8 ศาลอาญา เวลาประมาณ 17.03 น. และได้ปราศรัยหน้าประตูทางเข้าศาลอาญา เวลาประมาณ 19.00 น. และโปรยกระดาษที่มีรายชื่อของผู้ที่ลงชื่อเรียกร้องให้ศาลประกันตัวจำเลยที่ถูกคุมขัง และมีกระดาษบางส่วนเข้ามาในบริเวณศาลอาญา

ข้อกล่าวหาระบุว่า การกระทำของทั้งสองถือว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล และเป็นการกระทำฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลอาญาว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลอาญา พ.ศ. 2564 ฉบับลงวันที่ 17 มี.ค. 64

ทนายความยื่นขอเลื่อนการไต่สวน เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเพิ่งได้รับข้อกล่าวหา

เวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 715 ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสอง ได้แก่ ณัฐชนน ไพโรจน์ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1) และเบนจา อะปัญ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2) พร้อมกับทนายความ และ ชวัลนาถ ทองสม ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา (ผู้กล่าวหา) มาศาล โดยในห้องพิจารณามีผู้มาให้กำลังใจและผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมฟังการไต่สวนด้วย

ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ศาลได้ขอเก็บโทรศัพท์มือถือของทนายความ คู่ความ และผู้สังเกตการณ์ทุกคน ก่อนที่เวลา 13.35 น. ผู้พิพากษาจะออกพิจารณาคดี

ก่อนเริ่มการไต่สวน ศาลได้แถลงวางข้อกำหนด ไม่ให้คู่ความ ทนายความ ผู้เข้าร่วมฟังการพิจารณาทุกคน บันทึกภาพ เสียง ภาพและเสียง หรือถ่ายทอดภาพ เสียงหรือถ่ายทอดภาพและเสียง ไม่ว่าด้วยอุปกรณ์ หรือเครื่องมือใดๆ ในระหว่างการพิจารณา หรือเหตุการณ์ในห้องพิจารณา รวมไปถึงห้ามจดบันทึกหรือจดข้อความ คําแถลง หรือถ้อยคําของคู่ความ พยานและผู้เกี่ยวข้อง หรือบันทึกเหตุการณ์ในระหว่างพิจารณา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ทั้งนี้ เป็นไปเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย

หลังจากนั้นทนายความผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองแถลงต่อศาลว่า เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาได้รับแค่หมายเรียกนัดไต่สวนเท่านั้น แต่ไม่ได้สำเนาคำร้องระบุข้อกล่าวหา จึงไม่ทราบรายละเอียดและข้อเท็จจริง รวมไปถึงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

ด้านศาลถามถึงแนวทางการต่อสู้คดี ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ แต่ยืนยันว่าได้มาที่ศาลอาญาในวันเกิดเหตุจริง ส่วนคำให้การในรายละเอียดจะนำมายื่นต่อศาลต่อไป

ศาลเห็นว่า เพื่อให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองได้ต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ จึงอนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองยื่นคําให้การต่อศาลได้ก่อนหรือภายในนัดหน้า และทนายผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองแถลงขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน

ผู้ถูกกล่าวหาไม่คัดค้าน และยื่นไต่สวนพยานบุคคลเพิ่มอีก 4 ปาก รวมทั้งหมด 5 ปาก ได้แก่ ผู้กล่าวหา, พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ, ร.ต.อ.ศาศวัตร โคตรวงศ์, ร.ต.อ.สรวิชญ์ มูกขุนทด และ ด.ต.สุพันธ์ ระวังชื่อ เจ้าพนักงานตํารวจ สน.พหลโยธิน ผู้มีหน้าที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และพยานเอกสารเป็นรายงานการกระทําการประพฤติตนไม่เรียบร้อยบริเวณศาล, รายงานการสืบสวนพฤติการณ์ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดเรื่องละเมิดอํานาจศาลของ สน.พหลโยธิน, สําเนาภาพถ่ายประกอบรายงานการสืบสวน และข้อกําหนดของศาลอาญาว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาล พ.ศ. 2564

ด้านทนายผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ยื่นสืบพยานทั้งหมด 3 ปาก ได้แก่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, พยานเหตุการณ์ 2 ปาก ส่วนทนายผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 แถลงติดใจสืบพยาน 2 ปาก ได้แก่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และพยานเหตุการณ์ 1 ปาก

ก่อนเสร็จสิ้นการพิจารณาคดี ศาลมีคำสั่งเลื่อนนัดไปไต่สวนในวันที่ 13 ส.ค. 64 เวลา 9.00 น. พร้อมขอให้ออกหมายเรียกให้พยานผู้กล่าวหามาศาลในวันดังกล่าว และให้ผู้ถูกกล่าวหาเตรียมยื่นพยานหลักฐานให้พร้อมในวันนัดไต่สวน