21 ธ.ค. 2563 ศาลจังหวัดอุบลราชธานีนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดอุบลฯ เป็นโจทก์ฟ้อง “ทนายแชมป์” ฉัตรชัย แก้วคำปอด และ “อ๊อฟ” วิศรุต สวัสดิวร สองนักกิจกรรม “คณะอุบลปลดแอก” ในความผิดฐาน “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 จากการชุมนุม #เด็กพูดผู้ใหญ่ฟัง เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2563 ที่ศาลหลักเมืองจังหวัดอุบลฯ
เวลา 09.00 น. จำเลยทั้งสองพร้อมทีมทนายความเดินทางมาถึงศาล เมื่อเข้าไปที่ห้องพิจารณาคดี ทราบจากอัยการว่า ทางอัยการได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานออกไป
คำร้องของอัยการระบุเหตุผลว่า เนื่องจากคดีนี้จำเลยทั้งสองถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดกับปิยรัฐ จงเทพ และพริษฐ์ ชิวารักษ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนนัดหมายบุคคลทั้งสองมาพบพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาสั่งคดี โดยคาดว่าจะมาพบพนักงานอัยการได้ภายในเดือนมกราคม 2564 และเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญเกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มบุคคลอันกระทบถึงผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เป็นคดีที่อ่อนไหวกระทบต่อแนวคิดของบุคคลหลายฝ่าย และบุคคลทั้งสองได้ถูกกล่าวหาในข้อหาทำนองเดียวกันกับคดีนี้ในท้องที่ของสถานีตำรวจหลายท้องที่ ดังนั้น พนักงานอัยการจังหวัดอุบลฯ จะต้องส่งสำนวนของบุคคลทั้งสองเสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาตามแนวทางการสั่งคดี ซึ่งต้องใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 1-2 เดือน
อีกทั้งคดีของจำเลยทั้งสองในคดีนี้ กับคดีของปิยรัฐและพริษฐ์ เป็นสำนวนการสอบสวนเดียวกัน มีพยานหลักฐานชุดเดียวกัน ซึ่งอัยการประสงค์จะขอรวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันกับคดีนี้เพื่อให้ศาลพิจารณาไปในคราวเดียวกัน ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วเป็นธรรม และไม่เป็นภาระของจำเลยในการเดินทางมาศาลหลายครั้ง จึงขอให้ศาลเลื่อนการตรวจพยานออกไปสักระยะหนึ่ง
ต่อมาเวลา 10.30 น. หลังศาลพิจารณาคำร้องของอัยการแล้วได้มีคำสั่งอนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานไปในวันที่ 22 ก.พ. 2564 มีรายละเอียดว่า “เมื่อมูลความแห่งคดีนี้ กับสำนวนคดีปิยรัฐและพริษฐ์ที่อัยการโจทก์ประสงค์ขอรวมการพิจารณามีมูลความแห่งคดีเดียวกัน ถูกฟ้องว่าร่วมกันกระทำความผิดในข้อหาเดียวกัน และพยานหลักฐานชุดเดียวกัน แต่คดีของปิยรัฐและพริษฐ์อยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนนัดหมายบุคคลทั้งสองมาพบพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาสั่งคดี ประกอบกับจำเลยทั้งสองได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณาและไม่ค้านการขอเลื่อนคดี จึงมีเหตุสมควรที่จะเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานวันนี้เพื่อรอคดีของปิยรัฐและพริษฐ์มารวมการพิจารณาเพื่อจะได้ดำเนินการกระบวนพิจารณาคดีทั้งหมดไปในคราวเดียวกัน”
ธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนตั้งข้อสังเกตต่อกระบวนการในวันนี้ว่า “เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่อ่อนไหว และเพนกวินกับโตโต้ถูกกล่าวหาในข้อหาทำนองเดียวกันในหลายท้องที่ ถ้าอัยการแต่ละท้องที่พิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องไปคนละทิศทาง อาจทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ได้ พนักงานอัยการจังหวัดอุบลฯ จึงต้องรอส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาด้วย”
คดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 รวม 4 ราย ได้แก่ ฉัตรชัย แก้วคำปอด ผู้แจ้งการชุมนุม, วิศรุต สวัสดิ์วร ผู้ดำเนินรายการ, พริษฐ์ ชิวารักษ์ และปิยรัฐ จงเทพ ผู้ปราศรัย โดยอ้างเหตุการปราศรัยของพริษฐ์และปิยรัฐที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับข้อเรียกร้องให้ “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” ซึ่งต่อมา พนักงานสอบสวนยังได้แจ้งข้อกล่าวหาพริษฐ์เพิ่มเติมในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกด้วย
พนักงานสอบสวนและอัยการได้เร่งส่งฟ้องฉัตรชัยและวิศรุตต่อศาลเป็นคดีแรกและคดีเดียวในขณะนี้ ในบรรดาคดีมาตรา 116 ที่นักศึกษา-นักกิจกรรม ถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ชุมนุม #เยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563