การชุมนุม #โคราชจะไม่ทน เพื่อต่อต้านเผด็จการ ทวงคืนประชาธิปไตย ที่บริเวณลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา ซึ่งจัดโดยกลุ่มนิสิต นักศึกษา เยาวชนคนโคราช เพื่อประชาธิปไตย โดยมีประชาชนและเยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าร่วมกิจกรรมเต็มลานย่าโม ในช่วงเย็นถึงค่ำวันที่ 24 ก.ค. 2563 นั้น พบว่า มีการคุมเข้มจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา
โดยหลังจากมีการประชาสัมพันธ์ในเพจ Korat No เผด็จการ ว่าจะมีการนัดชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้โทรศัพท์ไปหากลุ่มนักกิจกรรมที่เคยจัด “วิ่งไล่ลุง โคราช” ระบุว่า ไม่ได้ห้ามจัดชุมนุม แต่หากมีการจัดอาจถูกดำเนินคดี พร้อมทั้งให้ทำหนังสือแจ้งการชุมนุมถึงตำรวจด้วย อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้จัดให้ข้อมูลว่า หลังจากปรึกษากันแล้วมีข้อสรุปว่า ไม่ทำหนังสือแจ้งการชุมนุม เพราะยังอยู่ในระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งไม่ได้บังคับใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ และจะจัดเตรียมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด
ก่อนหน้าการชุมนุม ผู้จัดกิจกรรมจึงได้ประชาสัมพันธ์ในเพจ ให้ผู้เข้าร่วมใส่หน้ากากอนามัย พกเจลล้างมือ และรักษาระยะห่าง และในที่ชุมนุมก็มีการตรวจวัดไข้ผู้เข้าร่วมก่อนเข้าพื้นที่ชุมนุมด้วย
ตลอดการชุมนุมมีการปราศรัย, เล่นดนตรี, แจกกระดาษ ปากกา ให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมเขียนข้อความแสดงความเห็นต่อรัฐบาล และชูป้ายดังกล่าวเพื่อถ่ายรูปไปลงโซเชียล รวมทั้งเปิดแฟลชมือถือเพื่อแสดงพลัง ผู้ชุมนุมมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 4 ข้อ คือ หยุดใช้สถาบันฯ โจมตีนักศึกษา, แก้รัฐธรรมนูญ, ยุบสภา และหยุดคุกคามประชาชน สอดรับกับข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่กรุงเทพฯ และกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ประชาชนที่ชุมนุมในหลายพื้นที่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้
ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 200 นาย ตรึงกำลังควบคุมการชุมนุม มีการนำแผงเหล็ก และแถบพลาสติกมากั้นเป็นแนวจำกัดพื้นที่การชุมนุม ตรวจสแกนอาวุธก่อนเข้าพื้นที่ ทั้งยังถ่ายรูปผู้เข้าร่วมกิจกรรมและผู้ปราศรัยตลอดการชุมนุม จนผู้ปราศรัยบนเวทีต้องประกาศว่า “แค่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย มันอะไรนัก”
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเมืองนครราชสีมาได้เข้ายึดป้ายข้อความจากนักเรียน นักศึกษา และผู้ชุมนุม อย่างน้อย 3 ป้าย โดยเฉพาะป้าย “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” ที่ผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งนำเข้ามาถือ โดยกลุ่มนักเรียนที่ถูกยึดป้ายระบุว่า พวกเขาเพิ่งเขียนป้ายเสร็จยังไม่ได้ยกขึ้นมาชูก็ถูกเจ้าหน้าที่มายึดไป
รวมทั้งมีกรณีการเข้าร่วมชุมนุมของนักเรียนซึ่งพบว่า มีนักเรียนเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับการชุมนุมในจังหวัดอื่นๆ แม้ว่านักเรียนที่เข้าร่วมชุมนุมจะมีการปิดชื่อและชื่อโรงเรียนที่ปักบนเสื้อ เพื่อป้องกันการถูกเจ้าหน้าที่ถ่ายรูป แต่กลับมีข้อมูลจากนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งว่า มีครูที่โรงเรียนไปสังเกตการณ์ในที่ชุมนุมและถ่ายรูปนักเรียนในโรงเรียนที่ไปร่วมชุมนุม ทั้งนี้ นักศึกษาที่ถูกยึดป้ายให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า รูปเธอในที่ชุมนุมถูกนำไปตามหาในกรุ๊ปแชทของโรงเรียนเก่า ทั้งที่เธอจบมาแล้วถึง 3 ปี ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย
ขอบคุณภาพจากเพจ Korat No เผด็จการ