วันที่ 23 ก.ค. 63 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับการเปิดเผยจาก เวย์ (นามสมมติ) ผู้ประกาศประชาสัมพันธ์เชิญชวนทำกิจกรรม “We go to walk คนเดินไทหล่มกัน ” ในวันเสาร์ที่ 25 ก.ค. 63 เวลา 17.00 น. ได้ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้าควบคุมตัวไปพูดคุยกับผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหล่มสัก พร้อมข่มขู่จะดำเนินคดี จนต้องตัดสินใจประกาศยกเลิกกิจกรรม
เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 63 เวย์ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับกิจกรรมที่ถนนคนเดินไทหล่ม ในอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีการติดแฮ็ซแท็ก #คนเพชรบูรณ์จะไม่ทน #ออกไปซะที #เอาประชาธิปไตยของเราคืนมา
หลังจากการประกาศ เวย์สังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาวนเวียนที่ร้านกาแฟของเขาในช่วงบ่ายแต่ยังไม่มีการเข้ามาพูดคุย จนกระทั่งช่วงเย็นได้มีเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวนของสภ.หล่มสัก 2 นาย เข้ามาพูดคุยกับเวย์ ระบุให้เวย์เดินทางเข้าไปที่สถานีตำรวจ เพื่อพูดคุยกับผู้กำกับเรื่องกิจกรรมที่จะจัดขึ้น เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย เวย์ตอบรับว่าจะไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางกลับไป
ต่อมาเช้าวันที่ 22 ก.ค. 63 ได้มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 3 นาย เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ลักษณะเหมือนจะเข้าชาร์จจู่โจม แต่เวย์และรุ่นพี่ที่อยู่ด้วยกันสังเกตเห็นก่อน จึงทำการพูดคุยสอบถามว่ามาทำอะไร ทางเจ้าหน้าที่ไม่ระบุสังกัด แต่แจ้งให้เวย์เดินทางไปกับพวกเขา โดยระบุว่าจะพาไปสภ.หล่มสัก เพื่อพูดคุยกับผู้กำกับเกี่ยวกับกิจกรรมชุมนุมที่จะจัดขึ้น โดยไม่มีหมายศาลหรือเอกสารราชการใดๆ เวย์จึงยอมใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปสถานีตำรวจ ด้านเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบใช้รถยนต์ขับนำและตามประกบด้านหลังด้วย
เมื่อไปถึงสภ.หล่มสัก เวย์ได้พบกับ พ.ต.อ.วชิระ โลหะเวช ผู้กำกับสภ.หล่มสัก ทางเจ้าหน้าที่สอบถามว่าจะจัดกิจกรรมขึ้นที่ไหน มีกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการจัดกิจกรรมหรือไม่ เมื่อเวย์แจ้งสถานที่และระบุว่าไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นการจัดกันเองกับคนที่มีความคิดเห็นตรงกัน ผู้กำกับระบุว่ากิจกรรมที่จะจัดขึ้นนั้นมีปัญหา ถ้าหากมีการจัดขึ้น ทางตำรวจก็เตรียมดำเนินคดีไว้แล้ว อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่จะต้องรายงานเรื่องดังกล่าวให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะเดินทางมาฟังรายละเอียดทราบด้วย
นอกจากนั้น ผู้กำกับยังระบุอีกว่า “ผู้ใหญ่” ไม่โอเคกับกิจกรรม ซึ่งเวย์ตอบเพียงว่ายังคงยืนยันที่จะจัดกิจกรรมอยู่ แต่ก็รับฟังข้อกังวลของทางตำรวจ ด้านผู้กำกับยังอธิบายว่าที่พาตัวมาพูดคุยในวันนี้ เป็นเพียงการเก็บข้อมูลของตำรวจเท่านั้น ระหว่างการพูดคุย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ขอบัตรประชาชนของเวย์ไปด้วย แต่เขาปฏิเสธ และเข้าใจว่าเป็นข้อมูลที่ทางตำรวจสามารถหาได้อยู่แล้ว หลังการพูดคุยกับผู้กำกับอยู่ราว 1 ชั่วโมง เวย์ก็ได้เดินทางกลับ
ต่อมา ยังได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนขอเพิ่มเพื่อนในแอพพลิเคชั่นไลน์ของเวย์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของเขาต่อไปอีกด้วย
นอกจากเหตุการณ์ดังกล่าว เวย์ยังได้รับแจ้งจากเพื่อนที่ประสานงานรถเครื่องเสียงที่จะใช้ในกิจกรรมวันที่ 25 ก.ค. 63 ว่าผู้ให้บริการรถเครื่องเสียงได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพูดคุย เรื่องการให้เช่าเครื่องเสียงในการชุมนุม โดยตำรวจระบุว่าอาจถูกถอนใบอนุญาตเรื่องเครื่องขยายเสียง และอาจถูกดำเนินคดีเป็นผู้ร่วมจัดการชุมนุม ทำให้เจ้าของรถเครื่องเสียงแจ้งกับกลุ่มผู้จัด ว่าไม่สะดวกให้เช่าใช้อีก แต่หากกลุ่มจัดกิจกรรมได้รับเอกสารอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ทางรถเครื่องเสียงก็ยินดีที่จะมาตั้งเครื่องเสียงให้ตามเดิม
หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว เวย์ได้ปรึกษากับทีมงานที่เตรียมจัดกิจกรรมอีกทั้งครอบครัวของเวย์ จึงได้ตัดสินใจประกาศยกเลิกกิจกรรมดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ในจังหวัดเพชรบูรณ์เพิ่งมีการจัดกิจกรรม #คนเพชรบูรณ์ไม่เอาเผด็จการ ที่หน้าที่ว่าการอำเภอหนองไผ่ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. โดยศูนย์ทนายสิทธิฯ ได้รับรายงานการติดตามคุกคามเยาวชนอย่างน้อย 3 ราย ที่ตำรวจพยายามติดตามหาว่าใครเป็นผู้จัดกิจกรรม ทั้งที่ทั้งสามไม่ใช่ผู้ประกาศทำกิจกรรมแต่อย่างใด (ดูในรายงาน)