‘หนุ่ย’ ปฏิเสธชั้นศาล คดีฝ่าฝืนคำสั่ง พงส. เหตุคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย

‘หนุ่ย’ อภิสิทธิ์ ให้การปฏิเสธในชั้นศาล คดีฝ่าฝืนคำสั่งพนักงานสอบสวนที่ให้ไปศาลเพื่อขอฝากขังในคดี ARMY57 พร้อมยื่นคำให้การเป็นหนังสือ ระบุ คำสั่งพนักงานสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่มีเหตุให้ออกหมายขัง อีกทั้ง ป.วิ.อาญา ไม่ได้มุ่งลงโทษทางอาญาในกรณีเช่นนี้

9 ก.ค. 61 ศาลแขวงดุสิตนัดพร้อมเพื่อถามคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำที่ 1344/2561 ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) เป็นโจทก์ฟ้อง ‘หนุ่ย’ อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ นักกิจกรรมและกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ในข้อหา ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 จากกรณีที่อภิสิทธิ์ไม่เดินทางไปศาลแขวงดุสิตตามคำสั่งพนักงานสอบสวนที่จะขออำนาจศาลฝากขังในคดีผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง ซึ่งชุมนุมหน้ากองบัญชาการกองทัพบก หรือคดี ‘ARMY57’

ก่อนศาลอ่านฟ้องและถามคำให้การจำเลย ทนายจำเลยได้แถลงโต้แย้งคำฟ้องของโจทก์ที่ระบุในคำขอท้ายฟ้อง ขอให้ศาลนับโทษของจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยคดีอาญาหมายเลขดำที่ 97/2559 ของศาลทหารกรุงเทพ และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1229/2561 ของศาลแขวงดุสิต เนื่องจากจำเลยในคดีนี้ไม่ได้เป็นจำเลยในคดีทั้งสองดังกล่าว โจทก์จึงได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขฟ้องในประเด็นดังกล่าว โดยตัดข้อความดังกล่าวออก

ต่อมา ศาลได้อ่านคำฟ้องให้จำเลยฟัง และถามคำให้การ จำเลยให้การปฏิเสธ และยื่นคำให้การเป็นหนังสือ จากนั้น โจทก์แถลงต่อศาลประสงค์นำพยานบุคคลเข้าสืบจำนวน 2 ปาก คือ พ.ต.ท.ประจักษ์ พงษ์ปรีชา รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.ชนะสงคราม ผู้กล่าวหา และพนักงานสอบสวนในคดีนี้ ด้านทนายจำเลยแถลงนำพยานเข้าสืบ 2 ปาก เช่นกัน ศาลจึงกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์-จำเลย ในวันที่ 24 ต.ค. 61

ทั้งนี้ คำให้การจำเลยที่ยื่นต่อศาลมีเนื้อหาโดยสรุปว่า

“คำสั่งของพนักงานสอบสวนที่สั่งให้จำเลยเดินทางไปยังศาลแขวงดุสิตเพื่อฝากขัง เป็นการสั่งโดยไม่มีเหตุตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่พนักงานสอบสวนจะสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลเพื่อขอออกหมายขัง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 ได้นั้น ต้องนำมาตรา 66 มาพิจารณาประกอบด้วยเป็นสำคัญ โดยมาตรา 66 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า “เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุผลอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี  หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น” จึงจะเป็นเหตุให้ออกหมายขังจำเลยไว้ได้ แต่จำเลยเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกครั้งที่ 1 และให้ความร่วมมือแก่พนักงานสอบสวนเป็นอย่างดี ไม่ได้มีพฤติการณ์จะหลบหนี อีกทั้งจำเลยเป็นเพียงบุคคลธรรมดาไม่มีความสามารถใดจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุภยันตรายประการอื่นใดได้ ตามบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา และบันทึกสอบคำให้การของจำเลย พนักงานสอบสวนก็ไม่ได้ระบุเหตุที่จะออกหมายขังจำเลยได้ จำเลยจึงเห็นว่าคำสั่งของพนักงานสอบสวนที่สั่งให้จำเลยเดินทางไปศาล ปราศจากข้อเท็จจริงเหตุผลอันควรเชื่อและพยานหลักฐานตามสมควร จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ทั้งยังจะเป็นการสร้างภาระกระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพของจำเลยในฐานะผู้ต้องหาและประชาชนคนอื่นเกินสมควร จำเลยจึงตัดสินใจแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่าจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่สั่งให้จำเลยเดินทางไปศาล และต่อมาในวันเดียวกันนั้นศาลแขวงดุสิตก็มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวน เพราะไม่มีเหตุที่จะออกหมายขังอีกด้วย

นอกจากนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 กำหนดวิธีการบังคับให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนไว้โดยเฉพาะแล้วว่า หากพนักงานสอบสวนสั่งให้ผู้ต้องหาเดินทางไปศาล แล้วผู้ต้องหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานสอบสวน ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจจับผู้ต้องหานั้นได้  โดยถือว่าเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วนที่จะจับผู้ต้องหาได้โดยไม่มีหมายจับ ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนก็จะต้องดำเนินการสอบสวนโดยให้ผู้ต้องหามีสิทธิได้รับการสอบสวนด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม การให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจสั่งให้ผู้ต้องหาเดินทางไปศาลหรือจับผู้ต้องหานั้นก็เพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหาไปปรากฏตัวต่อหน้าศาล อันเป็นการสอดคล้องและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยการสอบสวน โดยไม่มีเจตนารมณ์จะมุ่งหมายให้ลงโทษทางอาญาแก่บุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวของพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด  กรณีจึงไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นใดที่จะต้องดำเนินคดีเพื่อลงโทษจำเลยในความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 ซ้ำอีก

อาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าว การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด  เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงขอให้ศาลได้โปรดพิพากษายกฟ้องโจทก์ต่อไป”  

 

อ่านความเป็นมาและความเคลื่อนไหวคดีก่อนหน้านี้:

ศาลสั่งปล่อยผู้ต้องหาคดีคนอยากเลือกตั้งกองทัพบก

ศาลยกคำร้องฝากขัง 4 แกนนำคดี ARMY57 – ตร.แจ้งข้อหา “หนุ่ย” เพิ่มเหตุฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานไม่ไปนัดฝากขัง

‘หนุ่ย อภิสิทธิ์’ ให้การเพิ่มคดีไม่ไปศาล ยืนยันว่าตร.ขอศาลให้ขังไม่ชอบด้วยกฎหมาย

อัยการฟ้องขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน คดีอภิสิทธิ์ไม่ไปตามนัดฝากขัง

 

X