อานนท์ถูกแจ้ง 2 คดีรวดพ่วง ม.112 กรณีชุมนุม #ม็อบ17พฤศจิกา หน้ารัฐสภาเกียกกาย

วันนี้ (14 ธ.ค. 63) เวลา 10.00 น. ที่สน.บางโพ อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกจากกรณีการชุมนุม #กูสั่งให้มึงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ หรือ #ม็อบ17พฤศจิกา หน้ารัฐสภาเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63

ก่อนหน้านี้ คณะราษฎรได้ประกาศการชุมนุมหน้ารัฐสภาเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ” โดยหนึ่งในนั้นมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเสนอโดย iLaw และมีประชาชนเข้าชื่อกว่า 100,732 รายชื่อ ผู้ชุมนุมได้มีการเรียกร้องให้รัฐสภารับร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐเข้าสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำผสมสารเคมี และยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 14.22 น. จนถึง 19.22 น.  ทั้งที่ ยังไม่มีความรุนแรงอันจะเป็นเหตุอันเพียงพอให้เจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุม ต่อมาเวทีได้ประกาศยกเลิกการชุมนุมตั้งแต่เวลา 21.00 น. หลังผู้ชุมนุมสามารถเข้าปักหลักที่หน้ารัฐสภาได้ไม่กี่ชั่วโมง

รูปภาพจากการชุมนุมเมื่อ 17 พ.ย. 63

คดีจากการชุมนุมครั้งนี้ ถูกแยกดำเนินคดีออกเป็น 2 คดี ได้แก่ คดีจากการไม่แจ้งการชุมนุมและคดีจากการปราศรัยซึ่งมีผู้กล่าวหาว่าเข้าองค์ประกอบมาตรา 112 “ดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์” แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยคดีแรกนั้นมีผู้กล่าวหา คือ พ.ต.อ.สุรเดช พจนาวงษ์พานิช ส่วนคดีมาตรา 112 นั้นมีนายสมชาย อิสระ เป็นผู้กล่าวหา 

คดีไม่แจ้งการชุมนุม #ม็อบ17พฤศจิกา

สำหรับคดีแรก ร.ต.ท.หญิง ปุญชรัสมี ขำฟัก รองสารวัตร (สอบสวน) สน.บางโพ ได้แจ้งข้อกล่าวหาและบรรยายพฤติการณ์ที่อานนท์ถูกกล่าวหาโดยสรุป ดังนี้ 

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63 เวลาประมาณ 15.00 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล, นายภาณุพงศ์ จาดนอก, นายอานนท์ นําภา, นางสาว ชลธิชา แจ้งเร็ว และนายเอกชัย หงส์กังวาน แกนนำกลุ่มราษฎร 63 ได้นำมวลชนเข้ามาชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภาและบริเวณใกล้เคียง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชุมนุมกดดันสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ การชุมนุมครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกต่อประชาชนทั่วไปและสามารถให้บุคคลอื่นเข้าร่วมได้จึงจัดเป็นการชุมนุมสาธารณะ

จากการตรวจสอบพบว่าการจัดการชุมนุมของนายพริษฐ์กับพวก ไม่ได้แจ้งต่อการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งแต่อย่างใด พ.ต.อ.สุรเดช พจนาวงษ์พานิช ผกก.สน.บางโพ ผู้รับแจ้ง จึงร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดําเนินคดีกับนายพริษฐ์กับพวกให้ได้รับโทษตามกฎหมาย

พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาฝ่าฝืนมาตรา 10 “ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ ไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง” ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะพ.ศ. 2558 แก่อานนท์ นำภา 

ในคดีนี้ ยังมีผู้ได้รับหมายเรียกอีก 5 คน ได้แก่ พริษฐ์, วีรวิชญ์, ภาณุพงศ์, ชลธิชา, และเอกชัย ซึ่งบางส่วนจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่สน.บางโพในวันที่ 18 ธ.ค. 63 เวลา 09.30 น. 

ขณะที่กรณีเอกชัยได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 63 แม้เขาจะยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้จัดการชุมนุม และเพียงเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่รัฐสภาเท่านั้น แต่พนักงานสอบสวนยังคงแจ้งข้อกล่าวหาต่อเอกชัย

คดีมาตรา 112 จากการปราศรัยเกี่ยวกับสถาบันใน #ม็อบ17พฤศจิกา

อีกคดีหนึ่งนั้นมี สมชาย อิสระ เป็นผู้กล่าวหา ซึ่งอ้างว่าเป็นประชาชนที่ฟังการปราศรัยของอานนท์ในการชุมนุม #ม็อบ17พฤศจิกา บนโลกออนไลน์ สมชายพิจารณาแล้วเห็นว่าคำปราศรัยของอานนท์นั้นเข้าองค์ประกอบความผิดฐาน “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์” จึงเดินทางมาร้องทุกข์ที่สน.บางโพ ให้ดำเนินคดีอานนท์ให้ถึงที่สุด

รูปภาพจากการชุมนุมเมื่อ 17 พ.ย. 63

ร.ต.อ.อริย์ธัช สิงโต ได้อ่านพฤติการณ์คดีโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63 มีการชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร 63 มาชุมนุมที่หน้ารัฐสภาและบริเวณใกล้เคียงเพื่อกดดันสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ต่อมาเวลาประมาณ 20.40 น. อานนท์ นําภา ได้ขึ้นเวทีปราศรัยว่ารัฐสภาเป็นของราษฎร ไม่ได้จำกัดแค่สมาชิกผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น พร้อมพูดย้ำว่าประชาชนนั้นต้องการปฏิรูป ไม่ใช่การปฏิวัติอย่างที่มีคนกล่าวหา ทั้งย้ำว่าไม่ใช่กลุ่มล้มเจ้าอย่างที่ใส่ร้าย

นอกจากนี้อานนท์ ยังพูดถึงกรณีเจ้าหน้าที่รัฐสลายการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรตั้งแต่ช่วงเที่ยงเปรียบเทียบกับที่ช่วงเช้ากลุ่มไทยภักดีสามารถเดินทางมาที่รัฐสภาได้อย่างง่ายดาย และขอเสียงปรบมือให้ผู้บาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก่อนประกาศนัดหมายการชุมนุมวันที่ 18 พ.ย. 63 ที่แยกราษฎรประสงค์ 

จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหามาตรา 112 “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์”​ ตามประมวลกฎหมายอาญาแก่อานนท์

อานนท์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาทั้ง 2 คดี และจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายในวันที่ 5 ม.ค. และ 15 ม.ค. 64 สำหรับคดีไม่แจ้งการชุมนุมและคดีมาตรา 112 ตามลำดับ ส่วนวันนัดส่งสำนวนให้อัยการนั้น พนักงานสอบสวนจะประสานในครั้งต่อไป

ปัจจุบัน อานนท์ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทั้งสิ้น 7 คดี รวมคดีที่อานนท์ยังไม่ได้ไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยในช่วงบ่ายวันนี้ อานนท์จะเดินทางเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีมาตรา 112 อีกคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี 

X