ทีมผู้จัดแฟลชม็อบ #จันรีไม่รอกู้เดี๋ยวสู้เอง เผย ถูกตำรวจติดตาม

18 มี.ค. 2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งจากนายนัท (นามสมมุติ) หนึ่งในทีมผู้จัดงานแฟลชม็อบ #จันรีไม่รอกู้เดี๋ยวสู้เอง ที่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ว่า หลังแฟลชม็อบดังกล่าว ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ติดตาม ทั้งทางโทรศัพท์และมาพบหลายครั้ง โดยตำรวจได้เดินมาขอเบอร์โทรศัพท์ของเขาและเพื่อนหลังกิจกรรมแฟลชม็อบจบลง จากนั้นตำรวจคนดังกล่าวก็โทรศัพท์มาติดตามความเคลื่อนไหวของเขาอยู่บ่อยครั้ง เช่น โทรมาถามถึงสองวันติดกันว่า จะเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ไหม เดินทางยังไง ไปด้วยกันไหมจะไปส่ง แต่นัทปฏิเสธไปว่า ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มนักศึกษา

หรือเมื่อนัทโพสต์ขายขนมในเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 63 ตำรวจคนเดิมก็โทรมากล่าวทีเล่นทีจริงว่า “ขายขนมทำไมไม่บอกพี่ เดี๋ยวพี่จะสั่งไปขาย” จากนั้นสอบถามด้วยว่า “จะชุมนุมกันอีกเมื่อไหร่” วันต่อมา ตำรวจรายนั้นก็มาหามานัทถึงที่ทำงาน และพยายามสอบถามเขาว่า บ้านอยู่แถวไหน

การติดตามดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้นัทรู้สึกถูกคุกคาม เขาเปิดเผยความรู้สึกว่า นอกจากรำคาญแล้ว ยังไม่สบายใจ และเป็นกังวลว่าจะไม่ปลอดภัยอีกด้วย

นัทให้ข้อมูลด้วยว่า จากการสอบถามเพื่อนของเขาหรือทีมผู้จัดกิจกรรมคนอื่น ๆ ไม่พบว่า มีคนถูกตำรวจติดตามเช่นเดียวกับเขาอีก

กรณีการติดตามคุกคามผู้จัดแฟลชม็อบในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังกิจกรรม ยังปรากฏในที่อื่นๆ ด้วย อย่างที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ กลุ่มผู้จัดได้ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามไปยังร้านอาหารนอกมหาวิทยาลัย และมีการเข้าสอบถามว่าจะมีการจัดกิจกรรมอีกเมื่อไรหรือไม่ หรือผู้จัดชุมนุมที่จังหวัดระยอง ได้ถูกชายหัวเกรียนคล้ายทหาร มาตามหาที่บ้าน และถ่ายรูปครอบครัวไป ทั้งยังพบว่ามีคนขับรถติดตามระหว่างไปทำธุระอีกด้วย เหล่านี้ล้วนทำให้ผู้ถูกติดตามคุกคาม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเกิดความกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย บรรยากาศเช่นนี้ไม่แตกต่างจากยุค คสช. แต่อย่างใดเลย

ทั้งนี้ การคุกคามไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะหลังกิจกรรม ก่อนการจัดและในระหว่างกิจกรรม แม้อยู่ในสถานศึกษา แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปขอข้อมูลผู้จัดกิจกรรม ผู้เข้าร่วม รายละเอียดกิจกรรม ทั้งยังมีตำรวจในเครื่องแบบเข้าไปตรวจตราในพื้นที่ชุมนุม หรือขอตรวจบัตรประชาชนของผู้เข้าร่วม และในแทบทุกการชุมนุม ล้วนมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจำนวนมากเข้าติดตามบันทึกวีดิโอ ถ่ายภาพผู้เข้าร่วม รวมถึงถ่ายภาพป้ายข้อความที่มีการแสดงออกในที่ชุมนุม (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: #เมื่อชาวชั่ยไม่ขอทนแต่ขอชน: สถานการณ์สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม 95 ครั้ง หลังยุบอนาคตใหม่ )