จากกรณีเครือข่ายประชาชน People GO Network จัดกิจกรรม “We Walk…เดินมิตรภาพ” เดิน 800,000 ก้าว จากกรุงเทพฯ ถึงขอนแก่น เป็นระยะทาง 450 กิโลเมตร โดยเริ่มออกเดินในวันที่ 20 ม.ค. 61 เวลา 09.00 น. จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แต่ถูกกำลังตำรวจสกัดกั้นไม่ให้ขบวนเดินออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ฯ โดยอ้างว่าฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เรื่องการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ทีมเดิน 4 คน จึงหาทางออกเดินจากด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ฯ ไปตามถนนพหลโยธินได้ และแวะพักค้างคืนที่วัดลาดทราย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้ขับรถติดตามสังเกตการณ์และถ่ายรูป ตลอดเส้นทาง (อ่านเพิ่มเติม ประมวลสถานการณ์กิจกรรม We Walk: เมื่อตำรวจยังไม่ให้เดินสู่ถนนมิตรภาพ และ ก้าวแรกเริ่มแล้ว: ตัวแทน We Walk ออกเดินมุ่งหน้าสู่ถนนมิตรภาพ)
21 ม.ค. 61 มีรายงานข่าวว่า เครือข่ายฯ ถูกเจ้าหน้าที่กดดันตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาบริเวณที่พักในวัดลาดทราย ตะโกนถามหาหัวหน้ากลุ่ม โดยระบุว่า อยากคุยด้วย แต่ไม่มีการใครตอบรับ จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. ก็มีเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนประมาณ 100-200 คน และเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกว่า 20 คน เข้ามาที่บริเวณวัด
เวลา 06.00 น. เครือข่ายฯ เริ่มทะยอยออกจากวัด เพื่อเริ่มกิจกรรมการเดินในวันที่สอง พบว่า มีการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ที่ปากทาง เรียกรถทุกคัน โดยขอตรวจและถ่ายรูปสำเนาทะเบียนรถ บัตรประชาชน และซักถามประวัติทุกคน รถคันสุดท้ายซึ่งเป็นรถสวัสดิการ ขนสัมภาระที่จำเป็น และน้ำ สำหรับแจกจ่ายให้ทีมเดิน ออกจากวัดในเวลาประมาณ 07.00 น. แต่ถูกกักไว้ เนื่องจากหลังรถบรรทุกสัมภาระจำนวนมาก
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ให้รถคันดังกล่าวขับไปที่ อบต.ลำไทร ซึ่งอยู่ติดกับวัด และทำการตรวจค้นรถอย่างละเอียด โดยอ้างอำนาจทหาร ไม่ต้องมีหมายค้น มี พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นหัวหน้าชุดในการตรวจค้น หลังตรวจค้น ตำรวจได้นำตัวทีมสวัสดิการ 4 คน ที่มากับรถ ได้แก่ นางสาววศินี บุญที, นายนิติกร ค้ำชู, นายอาคม ศรีบุตตะ และนายนนท์ (นามสมมติ) แจ้งว่าเพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในรถ โดยเพจ People Go Network รายงานว่า ด้านใน อบต.ลำไทร นอกจาก ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา แล้วยังมีรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และทหารในพื้นที่สระบุรีอีกหลายนาย และปฏิเสธไม่ให้ทนายเข้าร่วม อ้างว่าเป็นการสอบปากคำเบื้องต้น ยังไม่ใช่การจับกุมควบคุมตัวใดๆ ยังไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาตามขั้นตอนปกติ ขณะที่ด้านหน้า อบต.ลำไทรมี ตร. ประมาณ 100 นาย ตรึงกำลังอยู่
ต่อมา เวลาประมาณ 09.00 น. ทนายความได้รับอนุญาตให้เข้าไปใน อบต.ลำไทร แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พบกับทั้ง 4 คน ที่ถูกสอบปากคำอยู่ โดย พล.ต.ต.สมหมาย ออกมาแจ้งว่า ไม่ได้ตั้งข้อหาทั้ง 4 คน เพียงแต่ได้ตรวจสัมภาระในรถและสอบถามเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ในรถ ซึ่งทุกคนก็ตอบคำถามได้ทั้งหมด ยังไม่พบว่ามีอะไรเข้าข่ายผิดกฎหมาย
จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น. ทีมสวัสดิการของกิจกรรม “We Walk…เดินมิตรภาพ” จึงได้รับการปล่อยตัวออกจากห้องประชุมชั้นบนที่ใช้ในการสอบปากคำครบทั้ง 4 คน
สุทธิเกียรติ คชโส หนึ่งในทีมทนายความของเครือข่าย People GO Network เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับผู้ถูกสอบปากคำทั้ง 4 ได้ข้อเท็จจริงว่า พนักงานสอบสวนที่ทำการสอบปากคำเป็นพนักงานสอบสวนจาก สภ.คลองหลวง ทำการสอบปากคำทั้ง 4 ในฐานะพยาน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ร่วมในการสอบปากคำด้วย ประเด็นที่สอบถามเป็นการเชื่อมโยงถึงกิจกรรมเดินของเครือข่าย People GO Network ว่า แต่ละคนมาเกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้ได้ยังไง หลังจากสอบปากคำเสร็จพนักงานสอบสวนได้ให้ทั้ง 4 คน ลงชื่อในบันทึกตรวจค้น และบันทึกคำให้การพยาน มี 2 คนปฏิเสธไม่ลงชื่อในบันทึกคำให้การ เนื่องจากเห็นว่า เจ้าหน้าที่ใช้กำลังปิดล้อมไม่ให้เดินทาง และค้นรถพร้อมทั้งสอบปากคำ โดยไม่แจ้งเหตุ ไม่มีหมาย ส่วนบันทึกการตรวจค้นรถ ระบุว่าพบ มีดพร้า ธง วิทยุสื่อสาร เครื่องปั่นไฟ ไวนิล และสัมภาระอื่นๆ แต่ไม่มีการตรวจยึดสิ่งของดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทีมทนายยังไม่แน่ใจว่า จะมีการดำเนินคดีใดๆ กับทั้ง 4 คนนี้ และผู้ร่วมกิจกรรมเดินนี้คนอื่นๆ ในภายหลังหรือไม่
ขณะที่การเดินในวันที่สองของกิจกรรม “We Walk…เดินมิตรภาพ” ซึ่งใช้การเดินทีมละ 4 คน เพื่อหลีกเลี่ยงการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. มีรายงานว่า มีรถตู้หนึ่งคันตามขบวนเดิน พร้อมทั้งมีรถตำรวจอย่างน้อย 5 คัน สลับกันขับประกบและถ่ายรูป นอกจากนี้ ตามปั๊มน้ำมันสองข้างทาง ถ.พหลโยธิน พบว่า มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเฝ้าสังเกตการณ์ตลอดเส้นทางที่ขบวนเดินผ่านด้วย
ล่าสุด เวลา 15.27 น. ไลฟ์สดกิจกรรม “WeWalk…เดินมิตรภาพ” จากเพจ People GO Network Forum รายงานว่า มีพระจากวัดห้วยขมิ้นเดินทางมาแจ้งข่าวกับขบวนเดินว่า ที่วัดมีกำลังตำรวจ ทหาร ตรึงกำลังอยู่ที่วัด และกดดันทางวัดไม่ให้ยุ่งเกี่ยวหรือให้ขบวนเดินเข้าพัก รวมทั้ง วัดอื่นๆ ตามที่มีชื่อระบุในกำหนดการของกิจกรรมด้วย ทำให้เครือข่ายฯ มีความวิตกกังวลเรื่องสถานที่ที่เครือข่ายฯ จะเข้าพักในคืนนี้
ทั้งนี้ เพจ People GO Network Forum เผยแพร่วัตถุประสงค์ของกิจกรรม “We Walk…เดินมิตรภาพ” ว่า เพื่อสื่อสารต่อสาธารณะใน 4 ประเด็นหลัก ที่เป็นสิทธิของประชาชนและประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการกำหนด ได้แก่ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า, ความมั่นคงทางอาหาร, กฎหมายสิทธิมนุษยชน-สิทธิชุมชน และรัฐธรรมนูญ โดย People Go Network Forum ประกอบด้วยเครือข่ายประชาชน 4 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการและกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ, เครือข่ายเกษตรกรรรมทางเลือก , เครือข่ายทรัพยากร และเครือข่ายนักวิชาการและนักกฎหมายที่ติดตามรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง และการละเมิดสิทธิเสรีภาพ
โดยในการจัดกิจกรรม “We Walk…เดินมิตรภาพ” เครือข่ายฯ ได้ดำเนินการแจ้งการชุมนุมตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตอบกลับโดยระบุว่า การจัดกิจกรรมมีการจำหน่ายเสื้อยืดซึ่งมีข้อความสื่อความหมายในทางการเมือง และมีการชักชวนให้ประชาชนทั่วไปร่วมลงลายมือชื่อยกเลิกกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่การชุมนุมสาธารณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจดูแล แต่เป็นการมั่วสุม หรือชุมนุมการเมือง ตามข้อ 12 ของคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 องค์กรสิทธิมนุษยชนจึงได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/58 และเคารพเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม ตลอดทั้งอำนวยความสะดวกแก่ผู้จัดงาน ผู้เข้าร่วม และประชาชน ตามอำนาจหน้าที่ที่บัญญัติไว้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558