คู่มือการปฏิบัติในกรณีถูกเรียกให้ไปรายงานตามคำสั่งคณะรักษาความสงบ
(ทำอย่างไรเมื่อถูก คสช. เรียก)
โดย สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
ผู้ถูกจับกุม
- ควรบอก ชื่อ นามสกุล เบอร์ติดต่อญาติหรือคนใกล้ชิด ให้คนที่อยู่บริเวณที่ถูกจับกุมทราบ
- ควรสอบถามว่าจะถูกควบคุมตัวไปไว้ที่ไหน
- ควรแชร์ตำแหน่งที่อยู่ของตนเป็นระยะ ว่าถูกควบคุมตัวไว้ในที่ไหน
- ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ให้ผู้ถูกจับกุมแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับไว้วางใจถึงการถูกจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมตัวในโอกาสแรก หากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ก็ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อให้
- ควรแจ้งให้ญาติหรือคนใกล้ชิดมาขอเยี่ยมทันทีที่ถูกกักตัว
กรณีถูกซักถามโดยเจ้าหน้าที่
- ถ้าแน่ใจว่าข้อเท็จจริงที่เจ้าหน้าที่กล่าวหาไม่ถูกต้อง ต้องปฏิเสธ
- ให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็น
- ไม่ควรพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เกินกว่าที่จำเป็น ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
- หากเจ้าหน้าที่ให้เซนต์เอกสาร ควรอ่านเอกสารให้ครบถ้วน และดูว่าตรงกับความเป็นจริงที่เรารับรู้หรือไม่ (ต้องไม่ใช่สิ่งที่ผู้ถูกควบคุมคิดหรือคาดเดาไปเอง) หากไม่ถูกต้องให้เจ้าหน้าที่แก้ไขให้ถูกตรง หากเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ ผู้ถูกควบคุมตัวมีสิทธิไม่เซนต์
กรณีถูกกักตัว
- เจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจกักตัวได้ไม่เกิน7 วัน (กฎอัยการศึก มาตรา 15 ทวิ) หากมีการควบคุมเกินกว่านั้น เป็นเรื่องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
- กรณีที่ญาติอยู่ด้วยระหว่างมีการจับกุม ญาติควรตามไปเพื่อให้ทราบสถานที่กักตัวหรือควบคุมตัว
- กรณีไม่ทราบสถานที่กักตัว ให้ญาติติดต่อสอบถามหน่วยงานทหารที่เกี่ยวข้องโดยแจ้งจุดที่ถูกจับให้เจ้าหน้าที่ทราบ
- ญาติควรเจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมในโอกาสแรก
- ญาติควรเข้าเยี่ยมผู้ถูกกักตัวตั้งแต่วันแรก และทุกวัน (บ่อยๆเท่าที่เป็นไปได้)
- ครบ7 วัน ญาติควรไปรับผู้ถูกกักตัวจากสถานที่ควบคุมตัว หากครบ 7 วัน ยังไม่มีการปล่อยตัวให้ติดต่อทนายความเพื่อยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัว เนื่องจากเป็นการควบคุมตัวมิชอบด้วยกฎหมาย ตาม มาตรา 90 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
- ในระหว่างการกักตัว7 วันนั้น หากมีการนำตัวผู้ถูกเรียกให้รายงานตัวและถูกจับไปที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ให้ขอตำรวจแจ้งญาติให้ทราบทันที และให้เตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัว
- เมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว มีสิทธิขอประกันตัวต่อพนักงานสอบสวน
สิทธิของผู้ถูกจับ
- กรณีการจับกุมตามกฎหมายพิเศษ ให้ดำเนินการได้เท่าที่จำเป็น
- มีสิทธิแจ้งหรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับไว้วางใจ ทราบถึงการถูกจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมตัวในโอกาสแรก
- มีสิทธิพบและปรึกษาทนายความเป็นการเฉพาะตัว
- มีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนในชั้นสอบสวนได้
- ได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อญาติได้ตามสมควร
- ได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย
- ได้รับแจ้งสิทธิจากเจ้าพนักงานหรือตำรวจในโอกาสแรก
- ได้รับการเยี่ยม ตามสมควร
- ได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็ว เมื่อเกิดการเจ็บป่วย
- ได้รับแจ้งข้อกล่าวหาหรือรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับให้ทราบ หากมีหมายจับ ต้องแสดงหมายจับให้ผู้ถูกจับทราบขณะจับกุม การจับตามพรก.ฉุกเฉินฯ /ป.วิฯอาญา จะมีหมายจับ เว้นแต่เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า หากจับตามกฎอัยการศึกไม่ต้องหมายจับ
- มีสิทธิจะไม่ให้การหรือให้การก็ได้
- สิทธิที่จะถูกนำตัวไปสถานีตำรวจทันที (กรณีเป็นผู้ต้องหาตามป.วิฯอาญา)
- มีสิทธิได้รับสำเนาบันทึกการจับกุม