ตร.ปทุมวันตามจับ 4 นักศึกษา เหตุติดกระดาษ #ปฏิรูปไม่เท่ากับล้มล้าง หน้าร้าน SIRIVANNAVARI ก่อนปรับ 2 พัน ข้อหา พ.ร.บ.ความสะอาด

วานนี้ (11 พ.ย. 64) เวลาประมาณ 17.57 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้เข้าจับกุมตัวนักศึกษารวม 4 ราย ขณะอยู่บนรถแท็กซี่ระหว่างทางกลับบ้าน โดยไม่มีหมายจับ อ้างว่ากระทำความผิดฐาน “สร้างความเดือดร้อนรำคาญ” จากกรณีติดแผ่นกระดานข้อความ #ปฏิรูปไม่เท่ากับล้มล้าง และ #ยกเลิก112 บริเวณหน้าร้าน SIRIVANNAVARI ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน โดยระบุว่ามีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้ ก่อนนำตัวไป สน.ปทุมวัน โดยให้นั่งรถแท็กซี่คันดังกล่าวไป

ผู้ถูกจับกุมในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 ราย เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยในตอนแรก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอตรวจค้นกระเป๋าและข้าวของต่างๆ แต่ทั้งสี่คนยืนยันให้รอทนายความก่อน

ภาพแผ่นป้ายกระดาษด้านหน้าร้าน SIRIVANNAVARI

หลังทนายความเดินทางติดตามไปถึง ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนักศึกษา 1 ราย ในข้อหา “กระทำการติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใดๆ ในที่สาธารณะ โดยไม่ได้อนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่” ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 39 พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้

ข้อกล่าวหาระบุว่าเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 64 เวลา 15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ว่ามีกลุ่มวัยรุ่น 4-6 คน มาติดป้ายกระดาษมีข้อความว่า “ยกเลิก112” และ “ปฏิรูป≠ล้มล้าง” ที่เสาไฟบริเวณแยกราชประสงค์

ต่อมาได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ยืนชูป้ายข้อความทั้งสองที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นแท็กซี่มายังบริเวณแยกสามย่าน เจ้าหน้าที่ตรวจพบรถคันดังกล่าวจึงเข้าแสดงตัว เพื่อขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนและสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋า ด้านกลุ่มวัยรุ่นไม่ยินยอมแสดงบัตร และบอกชื่อสกุลให้เจ้าหน้าที่ทราบ เจ้าหน้าที่จึงได้ “เชิญตัว” ทั้งหมดมาที่ฝ่ายสืบสวนของสน.ปทุมวัน ต่อมาทั้งหมดจึงยินยอมบอกชื่อ-สกุลให้เจ้าหน้าที่ทราบ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นพบของกลางเป็นกระดาษพิมพ์ข้อความจำนวน 4 แผ่น แต่ละแผ่นมีข้อความว่า “กูไม่ใช่กบฎ, ABOLISH 112, REFORM≠OVERTHROW และ ปฏิรูป≠ล้มล้าง”ซึ่งเป็นข้อความเดียวกันกับที่นำไปติดที่ห้างสรรพสินค้า

ด้านนักศึกษาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ติดแผ่นป้าย พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาเป็นเงิน 2,000 บาท ทำให้คดีความสิ้นสุดลง และทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวจาก สน. ปทุมวัน ในเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนที่ผ่านมา