ยื่นคำร้องต่อคณะทำงานของสหประชาชาติเรื่องโทษจำคุกสถานหนักที่สุดจากคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์

กรุงเทพมหานคร กรุงปารีส ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2564: ในวันนี้ สมาพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนสากล (International Federation for Human Rights; FIDH) และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (Thai Lawyers for Human Rights; TLHR) ได้ยื่นคำร้องต่อคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการควบคุมตัวโดยพลการ (United Nations Working Group on Arbitrary Detention; UN WGAD) เพื่อให้มีการปล่อยตัวอัญชัญ ปรีเลิศ ผู้ต้องโทษจำคุกที่ยาวนานที่สุดภายใต้มาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา (หมิ่นประมาทกษัตริย์) ขณะนี้อัญชัญในวัย 65 ปีกำลังถูกจองจำอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางในกรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ศาลอาญากรุงเทพได้พิพากษาโทษจำคุก 89 ปี แก่อดีตข้าราชการ อัญชัญ ปรีเลิศ เนื่องจากอัปโหลดและเผยแพร่คลิปเสียงจำนวน 19 ชิ้นบนสื่อโซเชียลมีเดียจำนวน 29 ครั้ง ระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 ถึงเดือนมกราคม 2558 โดยเจ้าหน้าที่พิจารณาว่าคลิปเสียงเหล่านั้นมีเนื้อหาหมิ่นประมาทต่อราชวงศ์ไทย ทั้งนี้ศาลได้ลดโทษจำคุกลงเหลือ 43 ปี 6 เดือนเนื่องจากเธอรับสารภาพ

มาตรา 112 ระบุโทษจำคุกแก่ผู้ที่หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้ใดที่ละเมิดมาตรา 112 จะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึง 15 ปี ในแต่ละกรรม

“โทษจำคุกสถานหนักของอัญชัญนั้นไม่ต่างอะไรกับคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิตต่อการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิในเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกอย่างสันติ รัฐบาลไทยต้องปล่อยตัวอัญชัญและยุติการใช้กฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ในทางที่ผิดโดยทันที”

อดีล ราห์เมน คาน, เลขาธิการใหญ่แห่ง FIDH

FIDH และ TLHR เห็นว่าการดำเนินคดีและการลิดรอนเสรีภาพของอัญชันเป็นการละเมิดสิทธิในการพิจารณาคดีด้วยความยุติธรรมและสิทธิในเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก ทั้งนี้ สิทธิข้างต้นได้รับการรับรองด้วยมาตรา 14 และมาตรา 19 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights; ICCPR) ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคี

“อัญชัญถูกดำเนินคดีภายใต้ศาลทหารด้วยกระบวนการทางกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ทั้งเรื่องการควบคุมตัวเป็นเวลานานตั้งแต่ก่อนและระหว่างการพิจารณาคดีและโทษจำคุกสถานหนักแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน รัฐบาลไทยต้องแก้ไขความผิดที่ได้กระทำต่ออัญชัญและปล่อยตัวเธอโดยทันที”

เยาวลักษ์ อนุพันธ์ุ, หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

อัญชัญถูกจับกุมเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2558 และถูกควบคุมตัวในค่ายทหารเป็นเวลาห้าวัน ในช่วงแรก คดี 112 ของอัญชัญอยู่ภายใต้การพิจารณาของศาลทหาร คำร้องยื่นขอประกันตัวของเธอถูกปฏิเสธซ้ำหลายครั้ง ทำให้เธอต้องถูกกักขังเป็นเวลาทั้งสิ้นสามปีกับ 281 วันก่อนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 คดีของเธออยู่ภายใต้ศาลทหารกรุงเทพจนกระทั่งเดือนกรกฎาคม 2562 เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้โอนย้ายการพิจารณาคดีความของพลเรือนที่อยู่ภายใต้ศาลทหารไปยังศาลพลเรือน

นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 คณะทำงาน WGAD พบว่าการลิดรอนเสรีภาพของบุคคลถึงแปดคนซึ่งที่ถูกควบคุมตัวด้วยมาตรา 112 นั้นถือเป็นการควบคุมตัว “โดยพลการ” พวกเขาได้รับการปล่อยตัวทั้งหมดในเวลาต่อมา ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา กลไกตรวจสอบสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติหลายภาคส่วนได้ย้ำข้อกังวลซ้ำหลายรอบต่อการบังคับใช้มาตรา 112 โดยทางสหประชาชาติได้กล่าวมาโดยเสมอว่ากฎหมายดังกล่าวไม่สอดคล้องกับกติกาสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และได้เรียกเรียกร้องให้มีการแก้ไขหรือยุติมาตรา 112 พร้อมทั้งปล่อยตัวจำเลยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ทุกคน

FIDH และ TLHR ขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวอัญชัญโดยทันทีและโดยไม่มีเงื่อนไข มาตรา 112 ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้ประเทศไทยสอดคล้องกับพันธะหน้าที่ภายใต้กติกา ICCPR ของประเทศไทยและรัฐบาลไทยต้องละเว้นการจับกุม ดำเนินคดี และกักขังบุคคลใดก็ตามเพียงเพราะพวกเขาใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการพูดและแสดงออก

ติดต่อ
Ms. Eva Canan (English, French): +33648059157

อ่านจากเว็บไซต์ FIDH: ยื่นคำร้องต่อคณะทำงานของสหประชาชาติเรื่องโทษจำคุกสถานหนักที่สุดจากคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์

X