3 กุมภาพันธ์ 2563 – จากเหตุการณ์การชุมนุม #ไม่ถอยไม่ทน ซึ่งนำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ ส่งผลให้ตัวของธนาธรเอง และ ไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัครส.ส. เขต 5 จ.นครปฐม พรรคอนาคตใหม่ ถูกดำเนินคดีในฐานะผู้จัดการชุมนุม ในหลายข้อหา อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะฯ และ พ.ร.บ ควบคุมการโฆษณาฯ อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคอนาคตใหม่ที่ตกเป็นเป้าในการดำเนินคดี ยังมีผู้มาร่วมชุมนุมที่ถูกดำเนินคดีในความผิดในฐานเดียวกันด้วย แม้จะไม่ได้อยู่ในฐานะผู้จัดการชุมนุม ได้แก่ “โบว์” ณัฏฐา มหัทธนา , “เพนกวิน” พริษฐ์ ชีวารักษ์ และ “บอล” ธนวัฒน์ วงค์ไชย
>>>เพนกวิน-บอล เข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากกรณีแฟลชม็อบ ไม่ถอย ไม่ทน
ในวันนี้ ธนาธร, ไพรัฎฐโชติก์, ณัฏฐา, ธนวัฒน์ และพริษฐ์ ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมาย เพื่อส่งตัวพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 ปทุมวัน หลังพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งห้า โดยอัยการนัดหมายให้ทั้งหมดเดินทางมาฟังคำสั่งว่าจะฟ้องคดีนี้หรือไม่ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 09.00 น.
นอกจากทั้งห้าคนนี้ที่ถูกดำเนินคดีและตำรวจมีความเห็นควรสั่งฟ้องแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยังมีหนังสือเรียกตัว 3 ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ในฐานะผู้ต้องหาคดีอาญา จากกรณีเดียวกันนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่อนุญาตส่งตัว ส.ส.ทั้งสามให้ตำรวจดำเนินคดีในระหว่างสมัยประชุมสภาฯ
จากการชุมนุมไม่กี่ชั่วโมง นำไปสู่คดีความไร้ที่สิ้นสุด
จุดเริ่มต้นที่ผลักให้เกิดการชุมนุมในครั้งนี้เริ่มจากเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่กรณีกู้ยืมเงินจากธนาธรซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค หลังจากนั้นในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ธนาธรได้ทำเฟซบุ๊กไลฟ์สั้นๆ เชิญชวนประชาชนออกมาร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบ #ไม่ถอยไม่ทน ที่สกายวอล์กด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 18.00 น.
เมื่อถึงวันนัด มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมในการชุมนุมจนแน่นสกายวอล์ก ระหว่างนั้น ได้มีการปราศรัยโดยแกนนำของพรรค ได้แก่ ธนาธร, ปิยบุตร, พิธา, และพรรณิการ์ จนกระทั่งเวลา 18.00 น. การชุมนุมได้ยุติลงโดยที่ไม่มีเหตุวุ่นวายใด ๆ หลังจากนั้นในวันที่ 22 ธันวาคม 2562 มีการออกหมายเรียกธนาธรและไพรัฏฐโชติก์ มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ แต่ในส่วนของพิธา, ปิยบุตร และพรรณิการ์ ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อยู่ในสมัยประชุม ทางตำรวจยังไม่สามารถออกหมายเรียกได้ เนื่องจากต้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงนามในหนังสือขออนุญาตออกหมายเรียกส่งให้สภาผู้แทนราษฎรซึ่งทั้งสามเป็นสมาชิกพิจารณาอนุญาตก่อนส่งตัวทั้งสามให้ตำรวจ
อย่างไรก็ตาม คดีความที่สืบเนื่องมาจากการชุมนุมครั้งดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มผู้จัดการชุมนุมและนักกิจกรรมทางการเมืองเท่านั้น เพราะภายหลังจากการชุมนุมเพียงแค่หนึ่งวัน ได้เกิดประเด็นเรื่องการล่าแม่มดผู้เห็นต่างทางการเมืองขึ้น นำโดยเพจ ทีนิวส์ ที่ได้โพสต์ภาพประจานกลุ่มบุคคลที่แสดงความคิดเห็นในโพสต์ในเฟซบุ๊กที่ปรากฏภาพของผู้ชุมนุมยืนหันหลังพร้อมชูป้ายภาษาอังกฤษว่า “Fuck U Dictatorship” โดยมีฉากหลังเป็นรูปของรัชกาลที่ 9 ผลจากการล่าแม่มดร้ายแรงถึงขนาดที่ทำให้ผู้เสียหายรายหนึ่งต้องออกจากงานประจำ และตกเป็นเป้าหมายต่อการคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
>>> ชุมนุมสกายวอล์คยังไม่จบ! เจ้าหน้าที่ ปอท. เรียกเหยื่อล่าแม่มดเข้าให้ถ้อยคำ
ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้นที่ผู้ชุมนุมถูกคุกคาม
นอกเหนือจากในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เกิดการคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ในพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น ที่เชียงใหม่และอุดรธานีเองก็ปรากฎว่ามีการดำเนินคดีผู้ชุมนุมที่ออกมาทำกิจกรรมพร้อมกันกับการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในกรณีของเชียงใหม่ นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสมาชิกกลุ่ม “สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย” ได้ถูกดำเนินคดีในฐานความผิด เป็นผู้จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า อันเป็นความผิดที่ถูกกำหนดไว้ใน พ.ร.บ. ชุมนุมฯ ล่าสุด ทางอัยการได้ส่งฟ้องประสิทธิ์ ก่อนที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่จะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยที่ไม่ต้องวางหลักประกัน
>>> อัยการส่งฟ้อง สมาชิกสมัชชาเสรี มช. ไม่แจ้งชุมนุม #ไม่ถอยไม่ทน ศาลให้ปล่อยตัวไม่วางประกัน
>>> ตำรวจเห็นควรสั่งฟ้องสมาชิกกลุ่มสมัชชาเสรี มช. ไม่แจ้งชุมนุม #ไม่ถอยไม่ทน ที่ประตูท่าแพ
>>> แอดมินเพจ ‘สมัชชาเสรี มช.’ ยืนยันไม่ใช่ผู้จัดชุมนุม ด้านตำรวจแจ้งข้อหาชุมนุมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
ในส่วนของจังหวัดอุดรธานี ทางโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ได้รายงานว่า มีการจัดกิจกรรมคู่ขนานที่เสาธงหน้าสถานีรถไฟอุดรธานีเพื่อให้กำลังใจธนาธร ส่งผลให้ผู้ร่วมกิจกรรมคนหนึ่งถูกปรับเงินในฐานะที่เป็นผู้จัดการชุมนุมแต่ไม่แจ้งการชุมนุม นอกจากนี้ ยังมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เดินทางไปยังที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ในจังหวัดอุดรธานีเพื่อหาตัวผู้จัดกิจกรรม
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: