หลังจากที่ประเทศต้องอยู่ภายใต้บรรดาประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้คดีพลเรือนถูกนำมาพิจารณาในศาลทหารในความผิดทางอาญา 4 ฐานตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 37/2557 ได้แก่ ความผิดต่อพระมหากษัตริย์ ความผิดต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ความผิดเกี่ยวกับอาวุธ และความผิดจากการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่ง คสช. อีกทั้งในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการประกาศกฎอัยการศึก พลเรือนยังถูกจำกัดไม่ให้มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาเพื่อทบทวนคำพิพากษาในศาลชั้นสูงขึ้นไป
ประเด็นถกเถียงที่มักจะถูกพูดถึงนั่นก็คือเรื่องของความเหมาะสม เนื่องจากคดีส่วนใหญ่ไม่ใช่การกระทำร้ายแรง ทั้งยังเกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนเป็นหลัก มากไปกว่านั้น กระบวนการพิจารณาคดีในศาลทหารยังมีประเด็นเกี่ยวพันกับปัญหาอื่นๆ รวมไปถึงยังมีความล่าช้าและมีการกำหนดอัตราโทษที่รุนแรงกว่าศาลพลเรือน
อย่างไรก็ตาม คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 9/2562 ส่งผลให้มีการยกเลิกประกาศ คำสั่ง และคำสั่งหัวหน้า คสช. บางฉบับที่หมดความจำเป็น ส่งผลให้คดีพลเรือนที่ตกค้างในกระบวนการพิจารณาคดีในศาลทหารถูกโอนไปยังศาลปกติ การโอนคดีเช่นนี้เป็นสิ่งที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรกในสังคมไทย
นับถึงวันที่ 5 ส.ค. 2562 ศาลทหารมีคำสั่งจำหน่ายคดีพลเรือนที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือ เพื่อโอนไปยังศาลปกติแล้ว 8 คดี ได้แก่ คดีครอบครองระเบิด RGD5, คดีประจักษ์ชัย 112, คดีอัญชัน 112, คดีพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ 116, คดี ‘บุปผา’ (นามสมมติ) 112, คดีเสาร์ 112 และคดีของสมอล์ล บัณฑิต อาร์ณีญาญ์ 2 คดี
นอกจากนี้ ศาลทหารยังทยอยนัดคดีพลเรือนที่คงค้างมาเพื่อฟังจำหน่ายคดีอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
- คดี ‘จ้า’ แม่จ่านิว 112 ศาลทหารกรุงเทพนัดฟังคำสั่งวันที่ 6 ส.ค. 2562 เวลา 08.30 น.
- คดีปาระเบิดศาลอาญา ศาลทหารกรุงเทพนัดฟังคำสั่งวันที่ 6 ส.ค. 2562 เวลา 13.00 น.
- คดีสมบัติ บุญงามอนงค์ 116 ศาลทหารกรุงเทพนัดฟังคำสั่งวันที่ 6 ส.ค. 2562 เวลา 13.00 น.
- คดีฦๅชา 112 ศาลทหารกรุงเทพนัดฟังคำสั่งวันที่ 8 ส.ค. 2562 เวลา 13.00 น.
- คดีเสียดสีสุนัขทรงเลี้ยง 112 ศาลทหารกรุงเทพนัดฟังคำสั่งวันที่ 9 ส.ค. 2562 เวลา 08.30 น.
- คดีสราวุทธิ์ โพสต์เฟซบุ๊กรูปภาพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ม.112 ศาลมณฑลทหารบกที่ 37 จังหวัดเชียงราย นัดพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 12 ตุลาการฯ แจ้งว่าคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิพากษาของศาลทหารแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ได้กำหนดวันนัดฟังคำสั่ง
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าร่วมติดตามฟังคำสั่งและติดตามกระบวนการโอนคดีต่อไปยังศาลพลเรือน ตามหลักการกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หรือ ICCPR – International Covenant on Civil and Political Rights ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภาคี ส่งผลให้มีพันธะผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามเพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนในประเทศจะได้การคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชนอันเป็นหลักสากลที่ไม่อาจละเมิดได้ และเพื่อประกันสิทธิให้กับผู้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี