“โรม” ให้การปฏิเสธคดี “พูดเพื่อเสรีภาพ” โจทก์แถลงขอรวมคดีกับจำเลยอีก 8 คน ขณะศาลยกคำร้อง ขอให้ยกเลิกเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
วันนี้ 7 พ.ค. 61 เวลา 13.00 น. ศาลมณฑลทหารบกที่ 23 (มทบ.23) ค่ายศรีพัชรินทร นัดถามคำให้การ นายรังสิมันต์ โรม หรือ “โรม” นักกิจกรรมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ในคดี “พูดเพื่อเสรีภาพ” โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา อัยการศาล มทบ.23 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลนี้ เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 17/2561 ในข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. จากการเข้าร่วมกิจกรรม ‘พูดเพื่อเสรีภาพ รัฐธรรมนูญกับคนอีสาน?’ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 59 ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นช่วงก่อนการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559
ศาลได้อ่านคำฟ้องให้โรมฟัง โดยโรมให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี และขอให้การเป็นหนังสือ โจทก์แถลงต่อศาลว่า เนื่องจากโรมเป็นจำเลยที่ถูกฟ้องในความผิดเดียวกันกับจำเลยอีก 8 คน ในคดีหมายเลขดำ 83/2560 ได้แก่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน, นายณรงค์ฤทธิ์ อุปจันทร์, นายอาคม ศรีบุตตะ, น.ส.ณัฐพร อาจหาญ, น.ส.ดวงทิพย์ ฆารฤทธิ์, น.ส.นีรนุช เนียมทรัพย์, นายภานุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ และนายชาดไท น้อยอุ่นแสน อีกทั้งพยานหลักฐานเป็นชุดเดียวกัน ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปด้วยความสะดวกและรวดเร็วจึงขอให้ศาลรวมพิจารณาคดีทั้งสองเข้าด้วยกัน ทนายจำเลยไม่ค้าน ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นสมควรให้รวมการพิจารณาคดี จึงนัดพร้อมจำเลยทั้งเก้าเพื่อฟังคำสั่ง ในวันที่ 5 ก.ย.61 เวลา 13.30 น.
นอกจากนี้ โรมยังได้ยื่นคำร้องขอต่อศาล มทบ.23 ให้ยกเลิกเงื่อนไขในการประกันตัว ซึ่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล โดยในคำร้องได้ระบุเหตุผลว่า เนื่องจากโรมเป็นจำเลยในคดีอาญาของศาลทหารกรุงเทพอีก 2 คดี ซึ่งศาลทหารกรุงเทพได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวโดยวางเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเช่นเดียวกัน และกำหนดให้โรมต้องขออนุญาตต่อศาลทหารกรุงเทพก่อนทุกครั้งอยู่แล้ว อีกทั้งจำเลยมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง การที่จำเลยต้องเดินทางมาขออนุญาตในกรณีที่ต้องเดินทางออกนอกประเทศถึงสองศาล จึงเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับจำเลย และทำให้มีความซ้ำซ้อน อีกทั้งการยกเลิกเงื่อนไขดังกล่าวก็ไม่กระทบต่อการพิจารณา เพราะจำเลยยังมีเงื่อนไขในการปล่อยตัวของศาลกรุงเทพเช่นเดิม
ศาล มทบ.23 มีคำสั่งยกคำร้อง เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่ายังไม่มีเหตุสมควรให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง