ตัวแทนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ย้ำฝากมือถือไว้กับทนายของตัวเองตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งไว้

ตัวแทนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ย้ำฝากมือถือไว้กับทนายของตัวเองตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งไว้ เผยขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนมาสั่งยึดมือถือ

จากกรณีที่ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเข้ารายงานตัวต่อพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานซ่อนเร้นพยานหลักฐาน และทราบคำสั่งเจ้าพนักงานแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จากกรณีที่ศิริกาญจน์ปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นรถโดยปราศจากหมายค้นจากศาลภายหลังการพิจารณาฝากขัง 14 สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 26 มิ.ย. 2558 ทั้งนี้พนักงานอัยการให้เลื่อนนัดไปฟังความเห็นว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่เพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบพยานเพิ่มเติมอีกสองปาก คือ รังสิมันต์ โรม และชลธิชา แจ้งเร็ว สองนักศึกษาจากขบวนการประชาธิปไตยใหม่นั้น

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา รังสิมันต์ โรม และชลธิชา แจ้งเร็วเข้าให้การในฐานะพยานต่อ พ.ต.ต.หญิง ชมภูนุช อนัตญากุล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม โดยรังสิมันต์ โรมให้การกับพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2558 เวลา 22:00 น. น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวมาที่ศาลทหารกรุงเทพเพื่อขอทำการฝากขัง โดยก่อนจะขึ้นห้องพิจารณาคดี ยังคงใช้โทรศัพท์มือถือได้ตามปกติ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอตรวจยึดโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ให้ฝากสิ่งของรวมถึงโทรศัพท์มือถือและของมีค่าไว้กับญาติและทนายความ เนื่องจากหากศาลทหารกรุงเทพอนุญาตฝากขังจะไม่สามารถนำทรัพย์สินต่างๆ ติดตัวไปที่เรือนจำได้ แต่เนื่องจากขณะนั้นไม่มีญาติมาที่ศาลทหารกรุงเทพจึงฝากสิ่งของต่าง ๆ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือไว้ที่ทนายความ แต่ จำไม่ได้ว่าฝากไว้กับทนายความคนใดเนื่องจากมีทนายความหลายคน ทั้งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีพนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานอื่น ๆ สั่งการ ขอยึด หรือตรวจสอบโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด

ด้านชลธิชา แจ้งเร็ว ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2558 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวมาที่ศาลทหารกรุงเทพเพื่อขอทำการฝากขัง โดยก่อนที่จะขั้นห้องพิจารณาคดี ยังคงใช้โทรศัพท์มือถือได้ตามปกติเช่นกัน ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอตรวจยึดโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้มาแจ้งว่า ให้ฝากสิ่งของรวมถึงโทรศัพท์มือถือและของมีค่าไว้กับญาติและทนายความ เนื่องจากจะต้องพาตัวไปขึ้นไต่สวนพิจารณาคำร้องฝากขัง แล้วหากศาลทหารกรุงเทพอนุญาตฝากขังจะไม่สามารถนำทรัพย์สินต่าง ๆ ติดตัวไปที่เรือนจำได้ ดังนั้นจึงฝากสิ่งของต่างๆ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือไว้ที่ทนายความ โดยในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดเข้ามาตรวจค้นหรือสั่งยึดโทรศัพท์มือถือเช่นเดียวกัน

Screen Shot 2016-09-01 at 2.06.45 PM — ศิริกาญจน์ เจริญศิริ

สำหรับความคืบหน้าของคดีนั้นพนักงานอัยการให้เลื่อนนัดไปฟังความเห็นว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ในวันที่ 29 กันยายน 2559 ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) เวลา 9:30 น.

ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.สุริยา จำนงโชค พนักงานสอบสวนคดี 14 ขบวนการประชาธิปไตยใหม่แจ้งความดำเนินคดีต่อศิริกาญจน์ฐานแจ้งความเท็จต่อสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม จากเหตุที่ศิริกาญจน์แจ้งความให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะชุดตรวจค้นและล็อครถไม่ให้เคลื่อนย้ายในคืนเกิดเหตุว่ากระทำความผิดฐานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งคดีดังกล่าวยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาศริกาญจน์นั้น พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม แจ้งกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกศิริกาญจน์มาสอบปากคำเร็วๆนี้ แต่ยังไม่ใช่ฐานะผู้ต้องหาเป็นเพียงฐานะผู้ให้ถ้อยคำเท่านั้น

ด้านคดีที่ศิริกาญจน์ แจ้งความให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะชุดตรวจค้นหาล็อครถไม่ให้เคลื่อนย้ายในคืนเกิดเหตุ ว่าปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 นั้นเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจะทำหนังสือยื่นถึง ปปช. เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีต่อไป