จากกรณีทั้งพนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวงปทุมวัน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นพ้องกันในการสั่งไม่ฟ้องคดีผู้ร่วมชุมนุมกลุ่ม “คนอยากเลือกตั้ง” ที่ชุมนุมกันบนสกายวอล์กหน้าศูนย์การค้ามาบุญครอง หรือคดี MBK39 ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 28 คน ทำให้คำสั่งไม่ฟ้องถือเป็นอันเด็ดขาด และคดีเป็นอันสิ้นสุดลงแล้ว
ต่อมา ทางสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงปทุมวัน ได้ส่งสำเนาคำสั่งไม่ฟ้องคดีให้กับผู้กำกับสน.ปทุมวัน ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ และทางพนักงานสอบสวนได้คัดถ่ายให้กับผู้ต้องหาและทนายความ รายละเอียดคำวินิจฉัยไม่ฟ้องคดีแยกเป็นพิจารณาสองข้อหา ได้แก่ ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/58 ข้อ 12 และข้อหาสนับสนุนการจัดการชุมนุมสาธารณะภายในรัศมี 150 เมตร จากเขตพระราชฐาน ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558
ยุติข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/58 เพราะมีกฎหมายให้ยกเลิกความผิดแล้ว
ในข้อกล่าวหาชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 พนักงานอัยการเห็นว่าได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2562 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ข้อ 1 (7) ให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 เสีย จึงเป็นกรณีบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติขึ้นในภายหลัง กำหนดให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดอีกต่อไป และให้ผู้กระทำนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง
การกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 28 คน จึงไม่เป็นความผิดข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป จึงให้ยุติการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 28 คน ในข้อหานี้ เนื่องจากมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทำความผิด ยกเลิกการกระทำความผิดเช่นนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (5)
ไม่ฟ้องข้อหาสนับสนุนจัดการชุมนุมฯ เพราะเป็นเพียงผู้ร่วมชุมนุม และการชุมนุมเป็นสิทธิตาม รธน.
ส่วนในข้อกล่าวหาเรื่องการสนับสนุนการจัดการชุมนุมสาธารณะภายในรัศมี 150 เมตร จากเขตพระราชฐาน ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 พนักงานอัยการพิจารณาเห็นว่าผู้ต้องหาทั้ง 28 คนนี้เป็นผู้ร่วมชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพมาได้จากที่เกิดเหตุ ไม่ได้พูดปราศรัย หรือเข้าช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่ผู้ต้องหาผู้จัดการชุมนุมแต่อย่างใด ถึงขนาดจะฟังได้ว่า เป็นผู้สนับสนุนผู้จัดการชุมนุม ทั้งการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 44 คดีมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 28 คน ในความผิดข้อหานี้ จึงมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อผู้ต้องหาทั้งหมด
คดีใช้เวลากว่า 1 ปี 9 เดือน จึงสิ้นสุด
สำหรับคดี MBK39 นี้ เป็นการชุมนุมของกลุ่ม “คนอยากเลือกตั้ง” เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 เพื่อเรียกร้องให้ คสช. มีการจัดการเลือกตั้งภายในปี 2561 ผลจากการชุมนุมครั้งดังกล่าว ทำให้กลุ่มแกนนำและผู้ชุมนุมทั้งหมด 39 คน ถูกแจ้งข้อหาแยกเป็นสองคดี ได้แก่ คดีของ 9 แกนนำ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการสืบพยานในชั้นศาลต่อในช่วงเดือนมีนาคม 2563 และคดีของกลุ่มผู้ร่วมชุมนุม [simple_tooltip content=’2 คน ที่คดีได้มีคำพิพากษาแล้ว เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ ได้แก่ นพพร นามเชียงใต้ และนพเก้า คงสุวรรณ ที่ศาลแขวงปทุมวันพิพากษาว่ามีความผิด ลงโทษจำคุก 12 วัน แต่ให้รอการลงโทษ 1 ปี โดยคดีของนพพรสิ้นสุดแล้วเนื่องจากไม่อุทธรณ์ต่อ ขณะที่นพเก้าคดียังคงอยู่ระหว่างชั้นอุทธรณ์ อ่านที่ https://tlhr2014.com/?p=6504 ‘]จำนวน 28 คนเท่านั้น[/simple_tooltip]
คดีนี้ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรฟ้องคดี แต่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี เนื่องจากเห็นว่าการฟ้องคดีไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ และได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาให้ความเห็น แต่ทางอัยการสูงสุดให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม และให้ทำความเห็นใหม่ กระทั่งอัยการเจ้าของสำนวนมีความเห็นไม่ฟ้องคดีเช่นเดิม และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นพ้องด้วย ตั้งแต่การแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 คดีดำเนินมากว่า 1 ปี 9 เดือน จึงสิ้นสุดลง โดยผู้ต้องหาต้องเดินทางมาฟังคำสั่งรวม 18 ครั้ง ทั้งนี้ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. ผู้ต้องหาจากคดี MBK ผู้ชุมนุม 15 คนจาก 28 คน ได้รวมตัวกันเดินทางมารับสำเนาคำสั่งไม่ฟ้องที่สน.ปทุมวันด้วยตนเอง
สรุปคดีคนอยากเลือกตั้ง สิ้นสุดแล้ว 3 คดี
สำหรับคดีการชุมนุมของคนอยากเลือกตั้ง ทั้งหมด 10 คดีหลักนั้น จนถึงปัจจุบัน สิ้นสุดลงไปแล้ว จำนวน 3 คดี ได้แก่ คดีการชุมนุมที่สกายวอล์กปทุมวัน MBK39 ส่วนของผู้ชุมนุม, คดีการชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน RDN50 ในส่วนของคดีผู้ชุมนุม ซึ่งอัยการถอนฟ้องคดี, คดีการชุมนุมที่หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ CMU06 ศาลพิพากษายกฟ้องข้อหาชุมนุมทางการเมือง แต่พิพากษาปรับข้อหาใช้เครื่องขยายเสียง
ส่วนคดีที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา 7 คดี ได้แก่ คดีการชุมนุมที่สกายวอล์กปทุมวัน MBK39 ส่วนของแกนนำ, คดี RDN50 คดีแกนนำ ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ยังต้องรอว่าอัยการจะมีการอุทธรณ์คดีหรือไม่, คดีการชุมนุมที่หน้ากองทัพบก ARMY57 ทั้งในส่วนของคดีแกนนำและคดีผู้ชุมนุม, คดีการชุมนุมที่หาดพัทยา ซึ่งคดีอยู่ระหว่างชั้นอุทธรณ์ และคดีการชุมนุมที่หน้าสหประชาชาติ UN62 ทั้งในส่วนของคดีแกนนำและคดีผู้ชุมนุม
รวมผู้ต้องหาจากการชุมนุมคนอยากเลือกตั้งมีจำนวน 130 คน บางรายก็ถูกดำเนินคดีซ้ำมากกว่า 1 คดี จากการร่วมชุมนุมคนละครั้งกัน
อ่านเพิ่มเติม ความเห็นทางกฎหมายต่อกรณี คสช. ดำเนินคดีผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง