“ภูมิ” นักกิจกรรมเยาวชน เข้ามอบตัว กรณีรื้อป้าย สตช. หลังม็อบ #7สิงหา ก่อนศาลเยาวชนให้ประกัน ระบุไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

วานนี้ (9 ส.ค. 64) ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน “ภูมิ หัวลำโพง” นักกิจกรรมเยาวชนวัย 17 ปี เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน จากกรณีถูกกล่าวหาว่าร่วมรื้อทำลายป้ายหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงคืนวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ภายหลัง #ม็อบ7สิงหา ก่อนพนักงานสอบสวนแสดงหมายจับออกโดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เลขที่ 26/2564 ลงวันที่ 9 ส.ค. 64

เวลา 16.00 น. ภูมิ พร้อมผู้ปกครอง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อมอบตัว เนื่องจากทราบจากข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีและจะออกหมายจับ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงหมายจับของศาล ผู้ต้องหารับเป็นบุคคลตามหมาย และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

วันนี้ หลังตำรวจนำตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อตรวจสอบการจับกุม ศาลได้อนุญาตให้ควบคุมตัวภูมิ แต่ให้ประกันตัวในวงเงินประกัน 30,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และนัดให้ไปพบพนักงานคุมประพฤติ ที่สถานพินิจฯ ธนบุรี ต่อไป วันที่ 16 ส.ค.64 เวลา 08.30 น.

ตร. แจ้ง 4 ข้อหา เหตุ ร่วมเผา-ทำลาย ป้าย สตช.

สำหรับบันทึกการจับกุม ระบุว่าภูมิเข้ามอบตัวในวันที่ 9 ส.ค. 64 เวลา 20.30 น. การจับกุมเกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต. เมธี รักษ์พันธุ์ กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (บก.น.6) โดยภูมิมาพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สน.ปทุมวัน เพื่อให้การ และเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับ

พฤติการณ์ตามที่ถูกกล่าวหาโดยสรุปว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 64 ร.ต.ท.ชัญอมร หนูนารถ กับพวก ได้นํารถยนต์สายตรวจไปเปิดสัญญาณไฟวับวาบที่บริเวณหน้าสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ รถจักรยานยนต์จํานวน 4 นาย ร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความเรียบร้อยอยู่ก่อนแล้ว

ต่อมาเวลา 19.30 น. ได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน จํานวน 3-4 คัน ขับจากแยกราชประสงค์มุ่งหน้าสํานักงานตํารวจแห่งชาติ พร้อมกับมีการขว้างปาสิ่งของที่ทําให้เกิดเสียงดังคล้ายกับเสียงประทัด จํานวน 1 ครั้ง

เจ้าหน้าที่ตํารวจ 4 นายดังกล่าว จึงรีบวิ่งไปหลบที่ด้านหลังรถจักรยานยนต์สายตรวจ โดยมี ร.ต.ท.ชัญอมร นั่งอยู่ในรถคันดังกล่าว สักครู่ได้มีผู้ต้องหา ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ ร.ต.ท.ชัญอมร คุ้นเคย พร้อมกับพวกอีกประมาณ 10 คน เดินเข้ามาหาที่รถยนต์สายตรวจ ร.ต.ท.ชัญอมร จึงได้เตือน ว่าอย่ามาก่อเหตุวุ่นวาย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ตามมาสมทบอีกประมาณ 10-20 คน ได้ขว้างปาก้อนหิน ท่อนไม้ และมีเสียงดังคล้ายกับเสียงประทัดจํานวนหลายครั้ง

เจ้าหน้าที่ตํารวจ 4 นาย จึงได้รีบขึ้นรถยนต์สายตรวจ แล้วถอนกําลังไปที่แยกเฉลิมเผ่าเพื่อแจ้งวิทยุขอกําลังเสริม จากนั้น ร.ต.ท.ชัญอมร ได้วกรถกลับมาที่บริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าป้ายหน้าสํานักงานตํารวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย รวมทั้งพบว่ารถจักรยานยนต์สายตรวจถูกทุบ และถูกเผาได้รับความเสียหาย ร.ต.ท.ชัญอมร จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาภูมิว่าได้กระทำความผิดรวม 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่

ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.217
ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.215
ร่วมกันทําให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.358
ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยภูมิปฎิเสธลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุม

ศาลให้ประกัน ระบุมีพฤติการณ์ทำผิด แต่ไม่หลบหนี

ในช่วงเช้าวันนี้ พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อยื่นคำร้องตรวจสอบการจับกุม โดยขอให้ศาลออกหมายควบคุมและคัดค้านประกันตัว อ้างเหตุผู้ต้องหากระทำความผิดลักษณะเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง เกรงหากได้รับการปล่อยตัว ผู้ต้องหาจะไปทำการก่อเหตุอันตรายประการอื่น

ด้าน ผู้ต้องหา ผู้ปกครอง และที่ปรึกษากฎหมายมาศาล โดยทั้งสามแถลงประกอบการไต่สวนการตรวจสอบการจับกุม และคัดค้านการขอออกหมายควบคุม ว่าผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อมอบตัว และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแสดงหมายจับที่ สน.ปทุมวัน ไม่ได้ไปตามจับกุมแต่อย่างใด

ต่อมา ศาลมีคำสั่งว่า การจับกุมชอบด้วยกฎหมาย และได้ระบุว่าผู้ต้องหาถูกจับกุมที่ สน.ปทุมวัน และให้ควบคุมผู้ต้องหาไว้ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ ด้านผู้ปกครองได้ยื่นขอปล่อยชั่วคราวโดยวางหลักประกันเป็นเงินสด 5,000 บาท

จนกระทั่งเวลา 13.50 น. ศาลอนุญาตให้ประกันตัว โดยมีคำสั่งว่าพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกจับกุมในพฤติการณ์ลักษณะเดียวกันมารวม คดีนี้เป็นคดีที่ 9 แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว แต่พิจารณาข้อเท็จจริงและพฤติการณ์คดีอื่นๆ ประกอบด้วยแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหายังไม่ได้มีคดีที่อยู่ในศาลอีกนอกจากคดีนี้ ทั้งผู้จับและผู้ต้องหาให้ข้อมูลตรงกันว่ามีการจับกุมที่สน. แม้ผู้ต้องหามีพฤติการณ์กระทำผิด แต่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และยังไม่ชัดเจนในชั้นนี้ว่าได้ส่อไปในที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ จึงสมควรพิจารณาให้ปล่อยชั่วคราว โดยพิจารณาหลักประกันเป็นเงิน 30,000 บาท

ศาลได้นัดภูมิไปพบพนักงานคุมประพฤติ ที่ สถานพินิจฯ ธนบุรี วันที่ 16 ส.ค.64 เวลา 08.30 น.

หลังครอบครัววางเงินสด 30,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์เป็นหลักประกัน ภูมิพร้อมครอบครัว ผู้ไว้วางใจ และที่ปรึกษากฎหมาย จึงเดินทางกลับออกจากศาลเยาวชนฯ

อนึ่ง ภูมิ ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและชุมนุมทางการเมืองเป็นคดีที่ 13 แล้ว และจากการติดตามข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่ปี 2563 มีเยาวชนถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและชุมนุมทางการเมือง แล้วทั้งสิ้นอย่างน้อย 53 ราย ใน 57 คดี