พงส.แจ้งพฤติการณ์เพิ่ม “แอมมี่” สาดสี ยกฎีกาอ้าง ผลักอก ตร. 1 นาย ถือว่าทำร้ายร่างกาย 10 นาย 

16 ธ.ค. 2563 “แอมมี่ The Bottom Blues” หรือ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ พร้อมทนายความเดินทางไป สน.สำราญราษฎร์ หลังได้รับการติดต่อจาก พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบสำนวนคดี “สาดสี” จากเหตุการณ์หน้า สน.สำราญราษฎร์ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2563 ให้เข้าไปพบโดยระบุว่า จะเปรียบเทียบปรับข้อหาทำร้ายร่างกาย และข้อหาตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ 

ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน สน.สําราญราษฎร์ แจ้งข้อกล่าวหาแอมมี่ในคดีนี้ รวม 3 ข้อหา ได้แก่ “ทําร้ายร่างกายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391, “ทำให้เสียทรัพย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358  และ “ทำให้ปรากฏซึ่งรูปรอยใดๆ บนถนนหรือที่สาธารณะ” ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 12 โดยเข้าแจ้งข้อกล่าวหาขณะแอมมี่ถูกฝากขังระหว่างสอบสวนที่เรือนจําพิเศษกรุงเทพ ในคดีจากการร่วมชุมนุมกับ #คณะราษฎรอีสาน ซึ่งแอมมี่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ต่อมา พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้อัยการ โดยที่แอมมี่ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการขอให้สอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่กรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องแบบของผู้กล่าวหาทั้งสิบนั้น ในวันเกิดเหตุได้มีประชาชนรวบรวมเงินจำนวน 35,000 บาท มอบให้แก่ พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผู้กำกับ สน.สำราญราษฎร์ แล้ว ล่าสุด อัยการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 4 มี.ค. 2564 

แต่เมื่อแอมมี่ไปถึง สน.สำราญราษฎร์ ตามที่พนักงานสอบสวนนัด ร.ต.อ.อานนท์ ไทรด้วง พนักงานสอบสวนกลับกล่าวว่า ยังไม่สามารถเปรียบเทียบปรับในวันนี้ได้ เนื่องจากได้ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว โดยอัยการได้ส่งสำนวนกลับมาให้สอบเพิ่มเติม หลังจากพนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมเสร็จแล้วก็จะส่งสำนวนให้อัยการอีกครั้ง หากอัยการสั่งให้เปรียบเทียบปรับถึงจะส่งมาให้พนักงานสอบสวนปรับ 

พนักงานสอบสวนชี้แจงอีกว่า ส่วนที่นัดมาครั้งนี้ให้มารับทราบพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเพิ่มเติม จากนั้นได้แจ้งพฤติการณ์เพิ่มเติมว่า หลังผู้ต้องหาสาดสีใส่ผู้กล่าวหาที่ 1 – 10 ซึ่งยืนหลังแผงเหล็ก จนสีเปรอะเปื้อนเครื่องแบบ รวมไปถึงพื้นถนนเป็นบริเวณกว้าง และเดินกลับเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุม ต่อมา ผู้ต้องหาได้เดินมาผลักอกผู้กล่าวหานายหนึ่ง เมื่อเทียบเคียงกับคำพิพากษาฎีกาที่ 9244/2553 ที่วางหลักไว้ว่า โจทก์สามารถฟ้องให้ลงโทษจำเลยที่ใช้เหล้าสาดใส่หน้าของผู้เสียหาย อันเป็นการใช้กำลังทำร้ายผู้เสียหายโดยไม่ถึงกับเป็นอันตราย แต่เมื่อเหล้าพลาดไปถูกคนอื่น เท่ากับผลของการกระทำเกิดแก่ผู้อื่นโดยพลาดไปด้วย กรณีนี้ การที่ผู้ต้องหาผลักอกผู้กล่าวหา 1 คน จึงถือว่ากระทำต่อผู้กล่าวหาทั้ง 10 คน ด้วย อันเป็นการใช้กำลังทำร้ายผู้กล่าวหาที่ 1-10 โดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ  

หลังพนักงานสอบสวนแจ้งพฤติการณ์ที่กล่าวหาเพิ่มเติม แอมมี่ไม่ลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าพฤติการณ์ที่พนักงานสอบสวนแจ้งเพิ่มเติมนั้นไม่ถูกต้อง ด้านพนักงานสอบสวนก็ไม่มอบสำเนาบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้แอมมี่ด้วย

หลังจากนี้แอมมี่จะเข้าพบพนักงานอัยการเพื่อฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องในวันที่ 4 มี.ค. 2563 ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) ตามที่อัยการนัดไว้

ปฏิบัติการสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยืนอยู่หลังแผงเหล็กหน้า สน.สำราญราษฎร์ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2563 จนเป็นเหตุให้แอมมี่ถูกดำเนินคดีนี้นั้น เกิดขึ้นขณะที่กลุ่มนักศึกษา นักกิจกรรม และศิลปินแร็ปซึ่งถูกออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหากรณีเข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 โดยแอมมี่กล่าวถึงเหตุผลเบื้องหลังสิ่งที่ทำในวันนั้นว่า “สิ่งที่เราทำคือการสร้างสัญลักษณ์ในการทวงความยุติธรรม ทวงถามความชอบธรรม และต้องการสื่อสารให้พวกเขาหยุดคุกคามประชาชนเสียที เพราะต่อไปนี้ไม่ใช่คุณแล้วที่จะคุกคามเราอย่างเดียว ถ้าคุณทำพี่น้องเรา เราก็มีสิทธิที่จะทำคุณเหมือนกันด้วยชั้นเชิงทางศิลปะ”

 

X