สน.ดุสิตแจ้งเพิ่มอีก 3 ข้อหา “ฟรานซิส” ผู้ต้องหา ม.110 เหตุร่วม #ม็อบ14ตุลา

วานนี้ (4 ธ.ค. 2563) บุญเกื้อหนุน เป้าทอง หรือ “ฟรานซิส” นักศึกษาปี 2 สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและกิจการทั่วโลก วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมที่สน. ดุสิต ในข้อหา “มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ตามประมวลกฏหมายอาญา ม. 215 , พ.ร.บ. จราจรฯ กีดขวางการจราจร, กีดขวางทางสาธารณะ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 385” โดยบุญเกื้อหนุนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา


เวลา 10.00 น. บุญเกื้อหนุน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา ม.110 “ประทุษร้ายต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท หรือต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์” จากกรณีเข้าร่วมม็อบระหว่างขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 14 ต.ค. เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม หลังจากได้รับหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2563

พ.ต.ท.อภิศิษฎ์ โรจน์อนนท์ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.ดุสิต ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในข้อหา  “มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.215, กีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.385 และกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบกฯ”  เบื้องต้น ฟรานซิสปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 

ทั้งนี้บุญเกื้อหนุนได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ม.110  เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2563 เมื่อทราบจากสื่อว่าตนมีหมายจับ  เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุม ไว้ที่บก.ตชด.ภาค 1 และนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2563 ก่อนได้รับการประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์มูลค่า 200,000 บาท ทั้งนี้ศาลยังได้ยกคำร้องฝากขังครั้งที่ 3 ของพนักงานสอบสวน ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2563 

คดีข้างต้นยังมีผู้ต้องหาอีก 2 คนได้แก่ เอกชัย หงส์กังวาน และ สุรนาถ แป้นประเสริฐ โดยเหตุแห่งคดีสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 มีการชุมนุมของกลุ่มประชาชนในชื่อ “คณะราษฎร 2563” ได้ประกาศรวมตัวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้า ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่ถูกสกัดอยู่ที่แยกนางเลิ้ง ขณะแกนนำอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อขอให้เปิดทางไปทำเนียบรัฐบาล โดยมีประชาชนกลุ่มหนึ่งรอสมทบอยู่ที่บริเวณ ถ.พิษณุโลก ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลและบริเวณแยกนางเลิ้ง ได้มีขบวนเสด็จผ่านบริเวณดังกล่าว โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าจากเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ดี ขบวนเสด็จสามารถเคลื่อนตัวต่อไปได้ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด 

หมายเหตุ : ทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังคงเปิดรับภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในบริเวณและวันเกิดเหตุ (14 ต.ค. 2563) ที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เพื่อนำมาเป็นพยานหลักฐานประกอบการต่อสู้คดี

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อศาลสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี: สิทธิการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีขบวนเสด็จ

จับเพิ่มรายที่สาม – นักกิจกรรมเยาวชน ขณะจะเข้ามอบตัวคดี “ประทุษร้ายเสรีภาพราชินี” เหตุร่วม #ม็อบ14ตุลา

“น.ศ.มหิดล” มอบตัวคดี ม.110 หลังร่วมม็อบระหว่างขบวนเสด็จ ด้าน “เอกชัย” ถูกจับ เตรียมขอฝากขังพรุ่งนี้

 

X