เอกชัยรับทราบข้อหา คสช. แจ้งความ พ.ร.บ.คอมฯ โพสต์เฟซบุ๊กไทยแพ้สมรภูมิร่มเกล้า

13 ก.พ. 2562 เอกชัย หงส์กังวาน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จากการโพสต์เฟซบุ๊กไทยแพ้สงครามในสมรภูมิร่มเกล้า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อหา เนื่องจากเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต

คดีนี้ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ รับมอบอำนาจจาก คสช. มากล่าวโทษต่อผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “เอกชัย หงส์กังวาน” ว่าโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ซึ่งผู้กล่าวโทษเห็นว่าเป็นข้อมูลเท็จในส่วนที่กล่าวว่า “สมรภูมิร่มเกล้า ไทยแพ้สงครามให้กับลาวจนเสียดินแดนหมู่บ้านร่มเกล้า (จ.พิษณุโลก)” เนื่องจากสงครามดังกล่าว ฝ่ายไทยใช้กองทัพอากาศโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนประเทศลาวประมาณ 30-40 กิโลเมตร ทำให้ฝ่ายลาวต้องเจรจาขอหยุดยิง ผลของสงครามทำให้สองฝ่ายกลับสู่สถานะเดิมก่อนสงคราม

นอกจากนี้ ปัญหาชายแดนร่วมไทย-ลาวบริเวณบ้านร่มเกล้า จ.พิษณุโลก ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว เมื่อปี 2543 เห็นชอบในหลักการร่วมกันว่า เส้นเขตแดนที่ได้สํารวจและจัดทําหลักเขตแดนไว้แล้วนั้นจะมีผลบังคับใช้ได้หลังได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการทั้งสองฝ่าย และได้ผ่านขั้นตอนด้านกฎหมายภายในของแต่ละประเทศ โดยระหว่างรอการมีผลบังคับใช้ของเส้นเขตแดน ประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าวสามารถดํารงชีวิตและทำมาหากินตามเดิม โดยไม่ให้ให้ทางการของอีกฝ่ายหนึ่งมายุ่งเกี่ยว และห้ามมิให้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมในบริเวณ 100 เมตร ในแต่ละด้านของสันปันน้ำที่เป็นแนวเส้นเขตแดน จึงทําให้เห็นได้ว่า สมรภูมิบ้านร่มเกล้าไทยไม่ได้แพ้สงคราม และไม่ได้เสียดินแดนแก่ประเทศลาว

พ.อ.บุรินทร์ ยังกล่าวโทษเอกชัยอีกว่า ข้อความ “หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพไทยไม่เคยชนะสงครามแม้แต่ครั้งเดียว ทหารไทยเก่งแต่รัฐประหาร และรังแกคนที่อ่อนแอกว่า” เป็นข้อมูลเท็จเช่นกัน เพราะในสมรภูมิร่มเกล้าไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบ นอกจากนี้ยังมีสงครามความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา บริเวณที่ทับซ้อนเขาพระวิหาร ตั้งแต่ปี 2551-2554 ประเทศกัมพูชาเป็นฝ่ายเจรจาสงบศึกกับฝ่ายไทย จึงถือว่าไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบในการสู้รบ

พ.อ.บุรินทร์ เห็นว่าข้อความของเอกชัยก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน จึงเป็นความผิดฐานนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็น เท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14

อย่างไรก็ตาม เอกชัยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยเห็นว่า ข้อความที่โพสต์เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จ ไม่มีลักษณะจะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของประเทศ หรือจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกของประชาชน โดยจะขอให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายในวันที่ 13 มี.ค. 2562

X